น้ำดื่ม และ การชะลอวัย
น้ำได้ถูกเรียกขานว่าเป็นยาอายุวัฒนะตั้งแต่สมัยโบราณ ทางการแพทย์แนะนำให้ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว น้ำทำหน้าที่กำจัดสารพิษและของเสียออกจากร่างกาย นำส่งสารอาหารและออกซิเจนให้เซล ช่วยให้เนื้อเยื่อและอวัยวะทุกส่วนชุ่มชื้น ช่วยควบคุมอุณหภูมิร่างกาย สังเกตได้จากผิวหนังและผิวหน้าของผู้ที่ดื่มน้ำมากเพียงพอทุกวัน ผิวพรรณจะมีน้ำมีนวล เปล่งปลั่ง ในทางตรงกันข้ามผู้ที่ร่างกายขาดน้ำ ผิวหน้าผิวตัวจะเหี่ยวและแห้งกร้าน ที่สำคัญบางคนจะมีอาการผิวแพ้ง่ายร่วมด้วย ร่างกายผู้ใหญ่ที่แข็งแรงจะมีน้ำเป็นองค์ประกอบประมาณ 60% แต่เมื่ออายุมากขึ้น น้ำในร่างกายจะลดลงเหลือประมาณ 45% การลดลงของปริมาณน้ำในร่างกายนี้อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ ปัจจุบันทุกคนตื่นตัวเรื่องการรักษาสุขภาพและกลัวความแก่ชรา ไม่ว่าจะไปที่ใด จะพบผู้คนรุ่นใหม่พกพาขวดน้ำดื่มติดตัวไปทุกที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวต่างประเทศ จนกระทั่งเรียกว่า Aquaholic หมายถึงการเสพติดน้ำดื่มนั่นเอง (ความหมายเช่นเดียวกับการเสพติดเหล้าเบียร์)
เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย ประกอบไปด้วยน้ำ 55-78% ขึ้นอยู่กับอายุ เพศ และขนาดรูปร่างใหญ่โตเพียงใด ทุกเซลล์ต้องการอาหาร ไขมัน โปรตีน และที่สำคัญคือต้องการน้ำมาหล่อเลี้ยง ถ้าร่างกายขาดน้ำ เซลล์จะแห้ง อาการกระหายน้ำ ผิวหนังแห้ง ปากแห้ง ผิวหนังเหี่ยวย่น ฯลฯ
การดื่มน้ำให้เพียงพอจึงนับว่าเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผิวหนัง สำคัญมากยิ่งกว่าการทาโลชั่นหรือครีมบำรุงผิวหนังเป็นประจำอีกด้วย และน้ำก็มีราคาถูกเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทั่วไป
ประโยชน์สำคัญยิ่งของการดื่มน้ำคือการช่วยกำจัดของเสียออกจากร่างกาย หากดื่มน้ำไม่เพียงพอ จะทำให้ท้องผูก เกิดสิวเสี้ยนบนผิวหน้า และเกิดการติดเชื้อที่ทางเดินปัสสวะได้ การขับถ่ายปัสสวะจะช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย น้ำจะช่วยละลายสารพิษในระบบทางเดินอาหาร แต่ในกรณีท้องผูก สารพิษก็ยังสามารถถูกกำจัดออกทางผิวหนังได้อีกทางหนึ่ง ความพยายามของร่างกายที่จะกำจัดสารพิษออกทางผิวหนัง จะทำให้เกิดสิวและอักเสบได้
ดื่มน้ำ มากเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอต่อร่างกาย
ดื่มน้ำปริมาณเท่าไหร่จึงจะเพียงพอต่อวัน มีคำแนะนำง่ายๆดังนี้
น้ำหนักตัว (กก.) / 30 = จำนวนลิตรต่อวัน
เช่น น้ำหนักตัว 60 กก./30 = 2 ลิตร/วัน
ถ้าเราออกกำลังกาย เราควรจะเพิ่มการดื่มน้ำมากกว่าปกติ
20% ของน้ำที่ร่างกายต้องการจะมาจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไปในแต่ละวัน ส่วนอีก 80% จะเป็นน้ำดื่มและเครื่องดื่มที่ควรบริโภคให้เพียงพอในแต่ละวันตามน้ำหนักตัวแต่ละคน
อย่างไรก็ตาม เครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอลหรือคาเฟอินน์ ไม่ควรนำมานับรวม เนื่องจากเครื่องดื่มประเภทนี้ จะมีผลทำให้ร่างกายขับปัสสวะมากกว่าปกติ และควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่หวานจัดหรือน้ำผลไม้ที่รสหวานจัด น้ำดื่มสะอาดดีที่สุดสำหรับร่างกาย
น้ำดื่มชนิดใดดีที่สุดสำหรับสุขภาพและชะลอวัย ?
1. น้ำกลั่น ได้มาจากการกลั่น น้ำจะสะอาดและบริสุทธิ์มาก สารตกค้าง แร่ธาตุและสิ่งสกปรกทุกชนิดจะถูกกำจัดออกหมด การดื่มน้ำชนิดนี้จึงไม่เหมาะกับสุขภาพเนื่องจากแร่ธาตุทั้งหลายที่เป็นประโยชน์จะถูกกำจัดออกหมด
2. น้ำประปาจากก๊อกน้ำ ก็ไม่ดีพอสำหรับร่างกายเพราะประกอบด้วยคลอรีนและฟูลออไรด์
3. น้ำจากภูเขาสูง ซึ่งพวกเรามักจะเข้าใจว่าดีเพราะจากธรรมชาติ มีรายงานวิจัยพบว่าปริมาณออกซิเจนในน้ำมีน้อยเพราะมาจากที่สูง จึงให้ประโยชน์น้อยต่อร่างกาย
4. น้ำแร่ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมมากเพราะมีการเติมแร่ธาตุชนิดต่างๆละลายลงในน้ำดื่มเพื่อเพิ่มประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น แคลเซี่ยม แมกเนเซี่ยม เกลือ ซัลเฟอร์ ฯลฯ นักวิจัยกลุ่มหนึ่งเชื่อว่า น้ำแร่ หรือน้ำอีเลคโตรไลด์ ซึ่งคล้ายคลึงกับเครื่องดื่มสำหรับนักกีฬานั่นเอง มีประโยชน์ช่วยชะลอวัยของคนเราได้ ไม่เฉพาะทำให้ผิวพรรณสดใสเท่านั้นแต่ช่วยให้โรคร้ายต่างๆมาเยือนเรายากขึ้น เป็นการยืดอายุให้อยู่ในโลกได้นานมากขึ้น
อย่างไรก็ตามการที่ร่างกายจะได้รับแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำแร่เท่านั้น เพราะจะสามารถพบได้ในผักผลไม้และอาหารทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำอาหารให้สุกโดยการนึ่ง จะคงไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ของไวตามินและแร่ธาตุอย่างครบครัน
นักอนุรักษ์นิยมกำลังรนณรงค์ให้ชาวโลกหันมาดื่มน้ำสะอาดสดจากเครื่องกรองน้ำดื่มที่บ้านตนเอง แทนการไปซื้อน้ำแร่บรรจุขวดจากห้างสรรพสินค้า เนื่องจากขวดพลาสติคกลายเป็นขยะล้นโลก เป็นเหตุหนึ่งก่อให้โลกร้อนอยู่ทุกวันนี้
ที่สำคัญ มีนักวิจัยค้นพบว่า ปัญหาขวดน้ำพลาสติด (PET) ที่วางขายทั่วไป อาจมีการปนเปื้อนโลหะหนัก "antimony" ซึ่งอยู่ในเนื้อพลาสติค และมีโอกาสจะปนเปื้อนลงในน้ำดื่มที่บรรจุอยู่ในขวด นอกจากนี้แล้วน้ำดื่มจากขวดบรรจุพลาสติค มีราคาสูงกว่าน้ำกรองจากบ้านเป็นหลายร้อยเท่าถึงหมื่นเท่า
บทสรุปของความลับการชะลอวัย คือ การดื่มน้ำสะอาดให้มาก แต่ไม่ต้องตื่นตระหนกจนพยายามดื่มน้ำมากเกินไป เพราะจะทำให้ตัวบวม สมองบวม อันตรายถึงตายก็เคยมีให้เห็นแล้ว เพียงแต่ปฏิบัติตนอย่างสม่ำเสมอทุกวัน ร่างกายก็จะแข็งแรงเพราะดื่มน้ำสะอาดเท่านั่นเอง
บทความเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน โดย
รองศาสตราจารย์ ดร.ภญ. พิมลพรรณ พิทยานุกุล
ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ภาพประกอบจาก :
https://pixabay.com/en/drops-of-water-water-nature-liquid-578897/