จากที่เคยสวมใส่เสื้อผ้าได้ง่ายๆ สบายเนื้อสบายตัว กลับกลายเป็นว่า เช้านี้ คุณรู้สึกอึดอัด จะหยิบใส่ตัวไหน ก็ไม่สบายตัวเหมือนอย่างเคย ถ้าหากว่า คุณสาวๆ เจออาการแบบนี้ ทั้งๆ ที่ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องคุณล่ะก็ นั่นอาจจะเป็นสัญญาณเตือนว่า คุณกำลังมี “อาการบวมน้ำ” นั่นเองค่ะ
…..“อาการบวมน้ำ” เกิดจากของเหลวที่ควรเดินผ่านหลอดเลือดและน้ำเหลืองกลับซึมเข้าสู่เซลล์และช่องว่างระหว่างเซลล์ เพราะร่างกายของคนเราจะสามารถรักษาระดับความสมดุลของน้ำในร่างกายได้ตามธรรมชาติ หากคุณมีพฤติกรรมที่ส่งผลต่ออาการบวมน้ำ เช่น ทานอาหารรสจัด ดื่มจัด ขี้เกียจไม่ยอมลุกออกจากเตียงในวันนั้นของเดือน การยืนนานๆ และการนั่งห้อยขา ก็ทำให้ข้อเท้าบวม
…..ส่วนอาการบวมน้ำก่อนมีประจำเดือน เกิดจากระดับฮอร์โมนแปรปรวนซึ่งมีผลต่อการทำงานของหลอดเลือดและต่อมน้ำเหลือง สาเหตุอื่นคือ เกิดจากโรคตับ โรคไต หรือภาวะหัวใจล้มเหลวได้ก็จะส่งผลให้เกิดอาการบวมน้ำขึ้นได้ ยิ่งไปกว่านั้นก็จะยิ่งทำให้น้ำหนักตัวของสาวๆ พุ่งขึ้นอีกด้วย
วิธีลด “อาการบวมน้ำ” แบบง่ายๆ ที่สามารถช่วยคุณสาวๆ ให้หายจาก “อาการบวมน้ำ” ได้ค่ะ
…..ว่ายน้ำ การออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำจะสามารถช่วยบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นได้ ดังที่เรียกว่า “หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง” เพราะน้ำในสระจะเป็นแรงดันน้ำส่วนเกินจากเนื้อเยื่อออกไปได้ และควรว่ายน้ำในอุณหภูมิ 27-32 องศาเซลเซียส อ๊ะๆ สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์หลีกเลี้ยงน้ำที่มีอุณหภูมิสูงเกิน 37 องศาเซลเซียสนะคะ เพราะอาจจะส่งผลต่อลูกในครรภ์ของคุณได้ค่ะ
…..งดอาหารรสจัด คุณสาวๆ ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้โดยเฉพาะอาหารรสเค็ม ซึ่งความเค็มจะไปกระตุ้นให้ร่างกายกักเก็บน้ำเอาไว้จนกว่าไตจะทำหน้าที่ขับออกมา ซึ่งกว่าไตจะขับออกมาก็ใช้ระยะเวลานานถึง 24 ชั่วโมง
>…..ดื่มน้ำ
…..กินคื่นฉ่าย คื่นฉ่าย ถือเป็นสมุนไพรที่หาได้ง่าย ราคาถูก แถมยังมีสรรพคุณที่จะช่วยให้คุณสาวๆ ลดอาการบวมน้ำที่เกิดขึ้นได้ ด้วยการช่วยเร่งให้คุณสาวปัสสาวะ ได้บ่อยขึ้น เพื่อเป็นการขับความเค็มออกไปนั่นเองค่ะ
…..นอนยกเท้าขึ้นสูง วิธีนี้ จะช่วยทำให้ระบบไหลเวียนของน้ำ ที่ขังอยู่ตามบริเวณขา ทั้งสองข้างนั้น ไหลกลับเข้าสู่ไตได้ง่ายและเร็วมากขึ้นค่ะ
…..อ๊ะๆ คุณสาวๆ อย่าได้นิ่งนอนใจ กับ อาการบวมน้ำ กันนะคะ ลองสังเกตอาการง่ายๆ ด้วยการใช้นิ้วกดตามเนื้อตัวของคุณบ่อยๆ ถ้าหากว่า เนื้อของคุณกดลงไปแล้วบุ๋มนานกว่าปกติ แนะนำให้คุณสาวๆ รีบพบแพทย์ด่วนเลยค๊าา…
ขอบคุณเนื้อหาจาก : woman plus
ขอมูลจาก
www.momen.mthai.com