วันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๕ ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กองทุนตั้งตัวได้ พ.ศ.๒๕๕๕โดยที่เป็นการสมควรจัดตั้งกองทุนตั้งตัวได้ เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนสำหรับนักศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาและสถาบันอาชีวศึกษา หรือบุคคลที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันการศึกษาดังกล่าวมาแล้วไม่เกินห้าปีการศึกษา ซึ่งนักศึกษานั้นได้มีความมุ่งมั่นหรือมีความประสงค์
และมีศักยภาพในการดำเนินการเกี่ยวกับวิสาหกิจนวัตกรรมใหม่หรือการลงทุนในเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ เพื่อกระจายโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนแก่นักศึกษาให้สามารถกู้ยืมเพื่อการสร้างอาชีพ สร้างงาน หรือสร้างรายได้ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนและก่อให้เกิดผู้ประกอบการรายย่อย โดยอาศัยกลไกของหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถานศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาและสถาบันอาชีวศึกษาดังกล่าว อันจะมีผลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
ประกาศฉบับนี้ มีผลบังคับใช้ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๕๕
หมวด ๑
การจัดตั้งกองทุน
ข้อ ๕ ให้จัดตั้งกองทุนขึ้นกองทุนหนึ่งในสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการเรียกว่า “กองทุนตั้งตัวได้” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนสำหรับนักศึกษาที่มีความมุ่งมั่นหรือมีความประสงค์ และมีศักยภาพในการดำเนินการเกี่ยวกับวิสาหกิจนวัตกรรมใหม่หรือการลงทุนในเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ เพื่อกระจายโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงธุรกิจสำหรับการลงทุนในการพัฒนาอาชีพ การสร้างโอกาสในการทำงานและสร้างรายได้ และสำหรับการสร้างมูลค่าเพิ่มจากภูมิปัญญาไทย รวมทั้งสนับสนุนและสร้างเสริมเศรษฐกิจที่มั่นคงให้กับประเทศ
ข้อ ๖ กองทุนประกอบด้วยเงินและทรัพย์สิน ดังต่อไปนี้
(๑) เงินทุนประเดิมที่รัฐบาลจัดสรรให้
(๒) เงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี
(๓) เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคหรือมอบให้แก่กองทุน
(๔) เงินที่ได้รับจากต่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ
(๕) ดอกผลหรือผลประโยชน์ที่เกิดจากเงินหรือทรัพย์สินของกองทุน
(๖) เงินหรือทรัพย์สินที่ตกเป็นของกองทุนหรือที่กองทุนได้รับตามกฎหมายอื่น
ข้อ ๗ การใช้จ่ายเงินกองทุนให้เป็นไปเพื่อกิจการ ดังต่อไปนี้
(๑) เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนตามวัตถุประสงค์ของกองทุน
(๒) เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและการบริหารกองทุน
หมวด ๔
การสนับสนุนทางการเงินของกองทุน
ข้อ ๒๐ ให้กองทุนสนับสนุนทางการเงินแก่นักศึกษาที่ประสงค์จะเป็นผู้ประกอบการภายใต้วัตถุประสงค์ของกองทุนและตามนโยบายและยุทธศาสตร์ของคณะกรรมการขอบเขตการสนับสนุนทางการเงิน และหลักเกณฑ์และวิธีการขอรับและการพิจารณาการสนับสนุนทางการเงิน ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการบริหารกองทุนกำหนดโดยต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนและตามนโยบายและยุทธศาสตร์ของคณะกรรมการ
ข้อ ๒๑ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการของกองทุนตามข้อ ๒๐ คณะกรรมการบริหารกองทุนอาจดำเนินการในเรื่องดังต่อไปนี้ได้
(๑) ให้การสนับสนุนทางการเงินให้แก่นักศึกษา
(๒) ทำความตกลงร่วมดำเนินการกับสถาบันการเงินในการให้สินเชื่อหรือสนับสนุนทางการเงินให้แก่นักศึกษา
(๓) สนับสนุนให้หน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันการศึกษาแห่งนั้น ในการดำเนินการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกอบวิสาหกิจ การฝึกอบรมและฝึกปฏิบัตินักศึกษาที่ประสงค์จะเป็นผู้ประกอบการ รวมทั้งจัดทำโครงการเสนอขอรับการสนับสนุนทางการเงินจากกองทุน
(๔) มอบหมายให้คณะบุคคลหรือบุคคลใดเป็นผู้วิเคราะห์โครงการ จัดทำความตกลงกับสถาบันการเงิน หรือเป็นผู้มีอำนาจอนุมัติการสนับสนุนทางการเงินแทนคณะกรรมการบริหารกองทุนภายในวงเงินหรือตามลักษณะโครงการที่กองทุนกำหนด
(๕) ประสานงานกับหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนเพื่อช่วยเหลือการประกอบการของนักศึกษา
(๖) ดำเนินการอื่นใดเพื่อให้การดำเนินการของกองทุนสำเร็จตามวัตถุประสงค์
หมวด ๕
การรับเงิน การจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงิน
ข้อ ๒๒ ให้สำนักงานเปิดบัญชีเงินฝากไว้ที่กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง หรือสำนักงานคลังจังหวัด แล้วแต่กรณี ชื่อ “กองทุนตั้งตัวได้” เพื่อฝากเงินกองทุนตามข้อ ๖ และห้ามมิให้นำเงินไปใช้จ่ายก่อนส่งเข้าบัญชีเงินฝาก
ข้อ ๒๓ เพื่อความคล่องตัวในการบริหารกองทุน กรณีที่มีความจำเป็น สำนักงานสามารถเปิดบัญชีเงินฝากได้ ณ ธนาคารที่เป็นรัฐวิสาหกิจ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ชื่อบัญชีเดียวกันกับข้อ ๒๒เพื่อใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ของกองทุนภายในวงเงินและเงื่อนไขที่คณะกรรมการบริหารกองทุนกำหนดโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง
ข้อ ๒๔ การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน การนำส่งเงิน การบริหารกองทุนและการจัดหาผลประโยชน์ ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการบริหารกองทุนกำหนด โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง
หมวด ๖
การจัดการกองทุนตั้งตัวได้
ข้อ ๒๕ ให้สำนักงานจัดทำบัญชีกองทุนตามหลักบัญชีคู่เกณฑ์คงค้าง ตามมาตรฐานการจัดทำบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด การปิดบัญชีให้กระทำปีละครั้ง โดยถือปีงบประมาณเป็นรอบปีบัญชีและให้จัดทำงบการเงินพร้อมทั้งรายละเอียดประกอบเสนอต่อคณะกรรมการบริหารกองทุนให้ความเห็นชอบก่อน เพื่อส่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบภายในระยะเวลาเก้าสิบวันนับแต่วันสิ้นปีบัญชีและเมื่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองแล้ว ให้ส่งสำเนางบการเงินดังกล่าวให้กรมบัญชีกลางและสำนักงบประมาณเพื่อทราบต่อไป
ข้อ ๒๖ ให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินทำรายงานผลการตรวจสอบงบการเงินของกองทุนเสนอต่อคณะกรรมการภายในหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันสิ้นปีบัญชี เพื่อให้คณะกรรมการเสนอต่อคณะรัฐมนตรี
ข้อ ๒๗ เพื่อประโยชน์ในการจัดทำรายงานการเงินในภาพรวมของแผ่นดิน ให้สำนักงานจัดส่งข้อมูลทางบัญชีของกองทุนเข้าสู่ระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามวิธีการและระยะเวลาที่กรมบัญชีกลางกำหนด
ประกาศ ณ วันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
http://www.matichon.co.th/www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2555/E/162/1.PDF
ข้อมูลจาก
www.matichon.co.th วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 18:10:00 น.