ในการเปลี่ยนยางรถยนต์แต่ละครั้งก็จะมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงพอสมควร แต่ด้วยความจำเป็น ในเรื่องของความปลอดภัยในการเดินทางก็ทำให้ยากที่จะปฏิเสธได้ใช่มั้ยล่ะครับ หากว่าเราไม่มีทางเลือกอะไรมากนักการที่จะหันมารักษาดูแลยางรถยนต์ เพื่อให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญพอตัว ว่าแต่จะต้องดูแลกันยังไงมาดูกันครับ
ไม่ควรบรรทุกนํ้าหนักมากจนเกินไป
การบรรทุกนํ้าหนักมากจนเกินไป จะทำให้การบิดตัวบริเวณหน้ายางสัมผัสกับพื้นผิวถนนมาก จนทำให้เกิดการสึกหรอได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดการลื่นไถลได้ง่าย และโครงยางอาจระเบิดได้เมื่อได้รับแรงกระแทก ดอกยางจะสึกบริเวณตอนกลางมากกว่าส่วนอื่น และทำให้ความนุ่มนวลในขณะขับขี่ลดลงอีกด้วย
ไม่ควรขับขี่ด้วยความเร็วสูง
การขับขี่ด้วยความเร็วสูงมากจนเกินไป จะทำให้เกิดแรงเสียดทานและความร้อนในยางสูง จึงทำให้ยางสึกหรอเร็ว อายุของยางก็จะลดลงไปด้วย
เติมลมยางไม่พอดี
ควรเติมลมยางให้พอดี ไม่อ่อนหรือแข็งจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดการบวมร่วน และยางระเบิดได้ หากมีการเติมลมยางที่อ่อนกว่ามาตรฐาน จะทำให้อายุยางสั้นลงบริเวณไหล่ยางจะเกิดความร้อนสูงและสึกหรอเร็วกว่าส่วนอื่น ซึ่งอาจทำให้เนื้อยางไหม้และโครงสร้างยาง แยกตัวออกจากกันอันนำไปสู่การบวมล่อนและระเบิดของยาง นอกจากนี้ อาจทำให้โครงยางบริเวณแก้มยางฉีกขาดหรือหักได้ และยังเป็นการสิ้นเปลืองน้ำมันอีกด้วย การเติมลมยางมากเกินไป ไม่เป็นผลดีเช่นกัน เนื่องจากพื้นที่สัมผัสของหน้ายางกับพื้นถนนลดลง อาจทำให้เกิดการลื่นไถลได้ง่าย และโครงยางอาจระเบิดได้ ง่ายเมื่อได้รับแรงกระแทก หรือถูกตำเนื่องจากโครงยางเบ่งตัวเต็มที่เกิดการยืดหยุ่นตัวได้น้อยอายุยางก็จะลดน้อยลง เนื่องจากดอกยางจะสึกบริเวณตอนกลางมากกว่าส่วนอื่น และทำให้ความนุ่มนวลในขณะขับขี่ลดลงอีกด้วย
หลีกเลี่ยงการเบรกและออกตัวอย่างรุนแรง
ควรใช้ความเร็วในการขับขี่อย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงการเบรกหยุดรถอย่างกระทันหัน หรือออกตัวอย่างรุนแรง ในขณะที่รถยนต์วิ่งอยู่บนถนนจะเกิดแรงเฉื่อยซึ่งมีค่าสูงกว่าความเร็ว ดังนั้น เมื่อเบรกจนล้อหยุดหมุนแล้วแรงเฉื่อยของตัวรถจะดัน ให้ล้อลื่นไถลไปกับพื้นถนนทำให้ยางเกิดการสึกหรอ ซึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความเร็วและระยะในการเบรกเป็นสำคัญ ส่วนการออกตัวอย่างรุนแรงทำให้ล้อหมุนฟรี หน้ายางจะเสียดสีกับพื้นถนนอย่างหนักทำให้ยางสึกหรอเร็วขึ้นนั่นเองครับ
พยายามหลีกเลี่ยงสภาพถนนที่ขรุขระ
การขับรถบนถนนที่ขรุขระ หน้ายางจะเสียดสีกับผิวถนน และจะทำให้เกิดการสึกหรอมากกว่าถนนที่ผิวเรียบ เพราะความต้านทานต่อการหมุนบนถนน เรียบมีน้อยกว่า ยางจึงเสียดสีกับผิวถนนเพื่อเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยแรงที่น้อยกว่า นอกจากนี้ ลักษณะเส้นทางก็มีผลเช่นกัน การขับขี่บนทางตรงจะเกิดการสึกหรอช้ากว่าการขับขึ้นเขา หรือขับบนถนนที่คดเคี้ยว
ระบบศูนย์ล้อผิดสเปค
หากระบบศูนย์ล้อผิดปกติไปจากสเปคของรถยนต์ จะทำให้เกิดแรงเสียดทานและลื่นไถลที่หน้ายางมากกว่าปกติ
ข้อมูลจาก ช่างเค
http://www.kmotors.co.th/talk-with-guru/toyota-chang-k-tire-car/