เสริมอาหาร...ป้องกันมะเร็ง

27 ต.ค. 2555 เวลา 22:12 | อ่าน 3,212
แชร์ไปยัง
L
 
images by free.in.th
โชคไม่ดีนักที่ยังไม่มีอาหารเสริมขนานใด เป็นเหมือนยาวิเศษที่ช่วยในการบำบัดผู้ป่วยโรคมะเร็ง ให้หายขาดจากอาการของโรคได้ เพราะอาหารเสริมก็ไม่ใช่ยาโดยตรง อย่างไรก็ตาม การที่ร่างกายได้รับสารอาหารแต่ละประเภทในปริมาณที่เหมาะสมนั้น ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง การป้องกันแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่


• หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง เช่น รังสี ซึ่งรวมถึงรังสียูวีในแสงแดดที่มากเกินไป สารเคมี บุหรี่

• หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีผลในการทำลายระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย เช่น การบริโภคน้ำตาล ไขมัน ในปริมาณมากเกินไป อาหารที่มีการปนเปื้อนของยาฆ่าแมลง หรือสารเคมีอื่นๆ

• หลีกเลี่ยงกิจกรรม หรือเหตุการณ์ที่จะทำให้เกิดความเครียด
ถึงการทำความรู้จักอาหารเสริมช่วยป้องกันเจ้าเนื้อร้ายนักร้ายหนานี้ ว่ามีตัวไหนน่าสนใจกันบ้าง

แคโรทีน(Carotenes) แคโรทีน เป็นแร่ธาตุที่พบได้ในผักผลไม้ที่มีสีแดง ส้ม เขียวเข้ม และเหลือง มีส่วนช่วยป้องกันมะเร็งในส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น มะเร็งปากมดลูก รังไข่ ปอด ต่อมลูกหมาก ลำไส้ หลอดอาหาร เบตาแคโรทีนซึ่งเป็นหน่วยย่อยของแคโรทีนนั้น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยการกระตุ้นการเพิ่มปริมาณเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งทำหน้าที่ในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมในร่างกายรวมทั้งเซลล์มะเร็ง

แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยแคโรทีน ได้แก่ มันฝรั่งหวาน ไข่ แอปริคอท ส้ม สไปรูลิน่า แครอท มะเขือเทส แคโรทีนเป็นแร่ธาตุที่ไม่มีอันตรายต่อร่างกาย ไม่ว่าจะบริโภคในปริมาณที่มากเพียงใดก็ตาม

วิตามินเอ วิตามินเอ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำหน้าที่ยับยั้งการผลิตฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งมีผลต่อการเติบโตของเซลล์มะเร็ง และเสริมสร้างประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย วิตามินเอนั้นมีประโยชน์ในการป้องกันโรคมะเร็งทุกชนิด ยกตัวอย่างเช่น มะเร็งปอดในผู้ที่สูบบุหรี่ซึ่งมีการตรวจพบว่าจะมีระดับวิตามินเอในร่างกายน้อยกว่าปกติ เมื่อปริมาณวิตามินเอในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น โอกาสเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งจะลดลง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม มะเร็งในช่องปาก มะเร็งในระบบเลือด และมะเร็งกล่องเสียง

แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ ได้แก่ เนย ตับ ครีม ไข่ ไขมันสัตว์ และน้ำมันปลา อย่างไรก็ตามไม่มีการระบุแน่ถึงปริมาณการบริโภควิตามินเอที่เหมาะสมต่อร่างกาย ซึ่งการบริโภคไขมันสัตว์ในปริมาณที่มากเกินไปนั้น อาจจะเพิ่มโอกาสเสี่ยงของการเกิดโรคชนิดอื่นได้ นักโภชนาการแนะนำว่าน้ำมันตับปลา 1 ช้อนชา ต่อวันนั้น สามารถให้ปริมาณวิตามินเอที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และควรหลีกเลี่ยงการบริโภควิตามินเอสังเคราะห์ เพราะอาจจะเป็นโอกาสเสี่ยงของการเกิดความผิดปกติสำหรับทารกในครรภ์

วิตามินซี วิตามินซีนั้นมีผลต่อการป้องกันโรคมะเร็งที่เกิดจากการทำงานของอนุมูลอิสระ เพิ่มปริมาณการสังเคราะห์คอลลาเจนในร่างกาย ยับยั้งการกลายพันธุ์ของพันธุกรรม และการสังเคราะห์โปรตีนที่ผิดปกติในร่างกาย จนอาจจะนำไปสู่การสร้างเซลล์มะเร็ง วิตามินซีนั้น ช่วยป้องกันโรคมะเร็งหลอดอาหาร ในช่องปาก กระเพาะอาหาร ปอด ลำไส้ รวมทั้งยังป้องกันการสร้างสารไนไตรท์ (Nitrites) จากเนื้อสัตว์ เช่น เบคอน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในร่างกาย

ปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายต้องการเฉลี่ย 5-8 กรัมต่อวัน สำหรับผู้ใหญ่ และ 2-3 กรัม สำหรับเด็ก อย่างไรก็ตามการบริโภควิตามินซีในปริมาณที่มากเกินไปนั้น อาจก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกายได้ โดยอาหารที่เป็นแหล่งวิตามินซี ได้แก่ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ส้ม มะนาว ฝรั่ง และกะหล่ำปลี

วิตามินอี วิตามินอี ช่วยป้องกันการสร้างอนุมูลอิสระจากกรดไขมันไม่อิ่มตัวในร่างกาย ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย และทำลายเนื้องอกที่อาจจะกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว วิตามินอีจัดได้ว่าเป็นวิตามินที่มีประสิทธิภาพดีในการป้องกันโรคมะเร็ง นอกจากนั้นแล้วยังช่วยป้องกันโรคหัวใจและโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินอี ได้แก่ ข้าวสาลี พืชตระกูลถั่ว โดยปริมาณที่เหมาะสมต่อการบริโภคได้แก่ 200-400 หน่วย (IU)

เซเลเนียม (Selenium) เซเลเนียม เป็นแร่ธาตุที่มีความสัมพันธ์กับผู้ป่วยโรคมะเร็ง โดยผู้ป่วยโรคนี้จะมีระดับเซเลเนียมในร่างกายต่ำกว่าคนปกติ แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยเซเลเนียม ได้แก่ ข้าวสาลี หอยนางรม ปลาทูน่า และเนย อย่างไรก็ตาม การบริโภคเซเลเนียมในปริมาณที่มากเกินไปอาจจะเป็นโอกาสเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ โดยปริมาณที่เหมาะสมต่อการบริโภค 100 ไมโครกรัมต่อวัน

แหล่งข้อมูล : นิตยสาร Alternative Medicine

ข้อมูลจาก http://www.yourhealthyguide.com


27 ต.ค. 2555 เวลา 22:12 | อ่าน 3,212


รีวิวบ้านใหม่ ไอเดียสร้างบ้าน
 
แชร์
L
ซ่อน
แสดง
มาใหม่
นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME
136 25 เม.ย. 2567
รัฐบาลเชิญชวน ผู้กู้ยืม กยศ. ถูกดำเนินคดีในปี 2557 ที่ยังมีภาระหนี้ค้าง เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อขยายระยะเวลาชำระหนี้ ปลดภาระผู้ค้ำประกัน
239 25 เม.ย. 2567
การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ทั่วประเทศ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ พิจารณาอย่างเหมาะสมและรอบคอบ เผย 14 พ.ค. นี้ คกก. ค่าจ้างฯ เตรียมประชุมพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ
261 25 เม.ย. 2567
เพิ่มเบี้ยหวัดบำนาญ 11,000 บาท พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2567
366 22 เม.ย. 2567
ดวงกับดาวประจำวันที่ 21-27 เมษายน 2567
375 21 เม.ย. 2567
เงื่อนไข คุณสมบัติ ครอบครัวอุปถัมภ์ผู้สูงอายุ มีสิทธิได้รับเงินเดือนละ 3,000 บาท เริ่มยื่นเดือนพฤษภาคมนี้ เป็นต้นไป
697 19 เม.ย. 2567
ก.พ. เพิ่มอัตราเงินข้าราชการบรรจุใหม่ และข้าราชการเก่า ตรวจสอบคุณสมบัติได้ที่นี่
1,379 15 เม.ย. 2567
รถไม่ค่อยวิ่ง ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตอนไหนดี ?
74 13 เม.ย. 2567
นายกฯ ย้ำโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โปร่งใส ตรวจสอบได้ พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายรายได้ถึงพี่น้องประชาชนระดับท้องถิ่นและชุมชน
93 12 เม.ย. 2567
สุริยะ รับข้อสั่งการนายกฯ อำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนช่วงสงกรานต์ 2567 “สะดวก-รวดเร็ว-ปลอดภัย เผยการเดินทางวันแรก (11 เม.ย. 2567) พบการเดินทางคึกคัก อุบัติเหตุลดลง
759 12 เม.ย. 2567
ดูเพิ่มเติม
 
หาเพื่อนไลน์
ซื้อขายรถบ้าน.com
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
หางานราชการ
  English
TOEIC กับ การขึ้นเงินเดือน GED VS กศน ไทย (สอบเทียบไทย) แนะนำที่เรียน IELTS ยอดนิยม ของ เด็กอินเตอร์ TOEIC Online GED CU-TEP SAT
 
บทความกลุ่มเดียวกัน