เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภาระค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน
าแล้ว สวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 หลังจากนำร่องลองเชิงกันมาก่อนในปี 2559 ปีนี้รัฐบาลมีความพร้อมมากขึ้น ในการเก็บ สำรวจ และคัดกรองข้อมูลของผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ จนในที่สุด รัฐบาลได้จัดทำรายละเอียดของสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่จะอุดหนุนช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภาระค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน โดยเริ่มเบื้องต้นจากปัจจัยพื้นฐานกันก่อน ได้แก่ 1. ค่าเดินทาง ที่ให้วงเงินไว้ 3 ประเภท 1.1.ขสมก.และรถไฟฟ้า 1.2.บขส. 1.3.รถไฟ ประเภทละ 500 บาทต่อเดือน และ 2.ค่าครองชีพ ที่แบ่งออกเป็น 2.1.เดือนละ 300 บาท สำหรับผู้มีรายได้น้อยกว่า 30,000 บาทต่อปี และ 2.2.เดือนละ 200 บาท สำหรับผู้ที่มีรายได้มากกว่า 30,000 แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
ทั้งหมดนี้ จะจ่ายให้แก่ผู้มีรายได้น้อยเป็นรายเดือน ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์ฝังชิพ ที่จะเริ่มแจกให้แก่ผู้มีรายได้น้อยในวันที่ 21 ก.ย.60 ใครลงทะเบียนไว้ที่ไหน ก็รับบัตรได้ที่นั่น และจะเริ่มใช้งานได้ในวันที่ 1 ต.ค. 60 ซึ่งเป็นวันที่ระบบตั๋วร่วมใยแมงมุมเริ่มเชื่อมโครงข่ายรถเมล์ ขสมก. คาดว่าจะเชื่อมได้ครบถ้วนประมาณต้นปี 2561 จากนั้นจะขยับไปเชื่อมกับระบบรถไฟฟ้า บขส. รถไฟ ตลอดจนทางพิเศษ และเรือ ส่วนค่าครองชีพนั้นเบื้องต้นใช้ได้กับร้านธงฟ้าประชารัฐ ซึ่งมีกระจายอยู่ทั่วประเทศ ส่วนร้านค้าอื่นๆ นั้น จะมีสติ๊กเกอร์ติดบอกให้เป็นจุดสังเกต จำนวนเงินเท่านี้ อาจดูไม่มากมาย หลายคนเกรงว่าไม่พอต่อการจับจ่าย แต่ก็น่าจะพอช่วยแบ่งเบาภาระ บรรเทาค่าใช้จ่ายของประชาชนผู้มีความเป็นอยู่อย่างแร้นแค้นได้ ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของรัฐบาล ที่ไม่ได้ต้องการจะเลี้ยงดูอุ้มชู วันหนึ่งทุกคนต้องยืนด้วยตัวเองได้ ดังนั้น ในระยะถัดไป
รัฐบาลก็มีแผนที่จะพัฒนาศักยภาพ เสริมทักษะความสามารถในการประกอบอาชีพ สร้างรายได้ ให้แก่พี่น้องประชาชนกลุ่มนี้ เพราะสิ่งที่รัฐบาล ต้องการยื่นให้แก่พี่น้องประชาชนจริง ๆ คือ เบ็ด แต่ในขณะที่รัฐกำลังขุดบ่อปลาให้นั้น ประชาชนก็ต้องกินต้องใช้ สวัสดิการที่จัดสรรอุดหนุนให้ในวันนี้ จึงเปรียบเสมือนปลา ที่ต้องให้เพื่อผ่านความหิวในวันนี้ไปให้ได้ก่อน และหวังว่า อนาคตข้างหน้า ทุกคนจะแข็งแรง ยืนหยัดได้ด้วยตนเองอย่างมั่นคง พร้อมที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยกัน
ภาพ/ข่าว : กลุ่มสื่อสารเชิงกลยุทธ์ สำนักโฆษก