ครม.ได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 21 ก.พ.2560 ให้ ธ.ออมสิน ดำเนินโครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกรรายย่อยสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่อของสถาบันการเงินในกรณีมีความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายเงินฉุกเฉิน
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 ให้ธนาคารออมสิน ดำเนินโครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกรรายย่อยสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่อของสถาบันการเงินในกรณีมีความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายเงินฉุกเฉิน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาหนี้นอกระบบที่มีภาระดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง และในบางกรณีที่มีการติดตามทวงถามหนี้ที่ใช้ความรุนแรง ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาสังคมตามมา โดยโครงการดังกล่าวจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกรรายย่อยที่เข้าร่วมโครงการให้ดีขึ้น
ทั้งนี้ โครงการดัวกล่าว มีผู้มาติดต่อลงทะเบียนกับธนาคารออมสิน จำนวนทั้งสิ้น 151,000 ราย ธนาคารฯ ได้ดำเนินการพิจารณาแล้ว 84,000 ราย ในจำนวนนี้ได้รับการอนุมัติ 50,000 ราย คิดเป็นวงเงิน 2,000 ล้านบาท โดยส่วนที่เหลือคาดว่าจะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2560 เมื่อรวมแล้วคาดว่าจะให้สินเชื่อได้ 100,000 ราย คิดเป็นวงเงิน 4,200 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน มีผู้ลงทะเบียนบางส่วนที่ธนาคารออมสิน ได้ให้คำปรึกษาและส่งข้อมูลให้คณะอนุกรรมการไกลเกลี่ยหนี้และคณะอนุกรรมการพัฒนาศักยภาพด้านรายได้จำนวนหนึ่ง สำหรับผู้ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 ประมาณ 14 ล้านราย มีผู้ที่แจ้งว่ามีหนี้นอกระบบจำนวน 1.3 ล้านราย ในจำนวนนี้เป็นรายที่ลงทะเบียนกับธนาคารออมสินประมาณ 430,000 ราย ธนาคารฯ มีแผนดำเนินการแจ้งรายชื่อให้สาขาทราบ และแจ้งให้ลูกค้ามาติดต่อสาขาที่สะดวก เพื่อให้ปรึกษาและพิจารณาด้านสินเชื่อแก้ไขหนี้นอกระบบต่อไปเช่นเดียวกัน
สำหรับโครงการสินเชื่อเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินนี้ เป็นการให้กู้สำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกรรายย่อยที่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายเงินฉุกเฉิน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนภายในครอบครัว โดยต้องไม่เป็นการกู้ไปปิดหนี้ในระบบก้อนเดิม (Refinance) ให้วงเงินให้สินเชื่อต่อรายไม่เกิน 50,000 บาท สามารถยื่นขอสินเชื่อภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินโครงการ ผ่อนชำระไม่เกิน 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) ไม่เกินร้อยละ 0.85 ต่อเดือน โดยใช้บุคคลค้ำประกันอย่างน้อย 1 คน และ/หรือมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
ทั้งนี้ ธนาคารฯ จะใช้หลักเกณฑ์พิจารณาสินเชื่อ โดยพิจารณาจากความสามารถในการชำระหนี้จากรายได้และค่าใช้จ่ายรวมของบุคคลในครอบครัวเป็นหลัก ซึ่งจะควบคู่กับการตรวจสอบประวัติการชำระหนี้จากเครดิตบูโร แต่จะไม่นำมาเป็นเงื่อนไขในการพิจารณาสินเชื่อ
ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวถึงความพร้อมในการแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในวันที่ 21 กันยายนนี้ ว่า ขณะนี้กรมบัญชีกลางได้ทยอยส่งมอบบัตรให้ธนาคารออมสินแล้ว โดยธนาคารฯ มีสาขาที่พร้อมรองรับการแจกบัตรกว่า 1,070 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งผู้มีสิทธิ์ที่ได้รับบัตรกับธนาคารออมสินมีอยู่ประมาณ 3.5 ล้านราย จากผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น 3.7 ล้านราย โดยการติดต่อรับบัตรนั้นเพียงนำบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดงเท่านั้น สามารถรับบัตรไปได้ทันที โดยลงทะเบียนที่สาขาไหนให้ไปติดต่อรับบัตรที่สาขานั้นๆ
ข้อมูลจาก เว็