รายงานดัชนีความสามารถทางการแข่งขันระดับโลก (Global Competitiveness Index : GCI) ประจำปี 2017 ของสภาเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum (WEF) ได้จัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยดีขึ้นจากอันดับที่ 34 เมื่อปีที่แล้ว เป็นอันดับที่ 32 ในปีนี้
โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า ด้านที่มีอันดับที่ดีขึ้นและส่งผลบวกต่อดัชนีความสามารถทางการแข่งขันโดยรวม ได้แก่ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ที่ได้รับคะแนนเพิ่มขึ้นจาก 4.4 เป็น 4.7 โดยเฉพาะในตัวชี้วัดสัดส่วนการเป็นสมาชิกโทรศัพท์เคลื่อนที่/มือถือนั้น มีอันดับดีขึ้นอย่างมากจากอันดับที่ 55 ในปีที่แล้ว เป็นอันดับที่ 5 ในปีนี้ สำหรับ ด้านการศึกษาขั้นสูงและการฝึกอบรม บ่งชี้ว่าการเข้าศึกษาในระดับมัธยม ปรับจากอันดับที่ 84 ในปีที่แล้ว กระโดดขึ้นเป็นอันดับที่ 8 ในปีนี้ ส่วนการพัฒนาทางด้านนวัตกรรม และด้านความพร้อมของเทคโนโลยีก็ได้รับการจัดอันดับที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ด้วย
นอกจากนี้ ขีดความสามารถทางด้านการเงินและการตลาด เช่น การจัดหาเงินทุนผ่านตลาดทุนในประเทศ ความพร้อมของบริการทางการเงิน ความแข็งแกร่งของระบบธนาคาร และความเพียงพอของทุนร่วมเสี่ยง ก็สะท้อนถึงความพร้อมในด้านตลาดการเงินของประเทศ เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง
เมื่อเปรียบเทียบประเทศไทยกับประเทศในกลุ่ม ASEAN + 3 ปรากฏว่า ไทยอยู่ในอันดับที่ 6 เป็นรองประเทศสิงคโปร์ ญี่ปุ่น มาเลเซีย เกาหลีใต้ และจีน เช่นเดียวกับปีที่แล้ว นั่นแสดงถึงสถานะทางการแข่งขันที่มั่นคงของไทย
ผลสำเร็จครั้งนี้ เกิดขึ้นจากนโยบายของรัฐบาลที่ได้เข้าไปแก้ไขปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ และการดึงต่างชาติให้เข้ามาลงทุนภายในประเทศ รวมถึงการส่งข้อมูลความคืบหน้าในการดำเนินงานเรื่องต่าง ๆ ของประเทศไปยังหน่วยงานที่เป็นองค์กรระดับโลก เช่น องค์การการค้าโลก (WTO) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่รัฐบาลจะต้องพัฒนาให้ดีขึ้นไปอีกและกำลังดำเนินการอยู่ คือ การสร้างเสถียรภาพทางการเมือง การพัฒนากฎหมาย การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และการกระจายความเจริญด้านเทคโนโลยีไปยังพื้นที่ภูมิภาคทั่วประเทศ โดยเชื่อมั่นว่าดัชนีความสามารถทางการแข่งขันนี้มีความเชื่อมโยงกับแนวโน้มการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งแม้ว่าข้อมูลส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องนักธุรกิจหรือผู้ประกอบการ แต่รัฐบาลยืนยันว่าจะไม่ทอดทิ้งพี่น้องเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย และเมื่อประเมินจากตัวเลขการส่งออกและการบริโภคภายในประเทศแล้ว คาดว่าเศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวได้มากกว่าที่ธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย หรือเอดีบี คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 3.5
ทั้งนี้ รายงานดัชนีความสามารถทางการแข่งขันระดับโลก (Global Competitiveness Index : GCI) ของ WEF เป็นการเปรียบเทียบความสามารถในการแข่งขันของ 137 ประเทศทั่วโลก ผ่านการเก็บข้อมูลเชิงลึก พร้อมจัดทำแบบสอบถามกับผู้บริหารระดับสูงขององค์กรขนาดใหญ่และขนาดย่อมในทุกภาคส่วนอุตสาหกรรมตามเกณฑ์ที่กำหนด จากนั้นจะนำไปคำนวณดัชนีความสามารถทางการแข่งขันซึ่งจะสะท้อนภาพโดยรวมของแต่ละประเทศ
ภาพ/ข่าว : กลุ่มสื่อสารเชิงกลยุทธ์ สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี