๑๙ มกราคม ๒๕๖๑ ห้องประชุม ๓๐๑ ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้แถลงผลการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๐
(๑๙ มกราคม ๒๕๖๑ ห้องประชุม ๓๐๑ ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล) ภายหลังการประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้แถลงผลการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๐ ที่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ จำนวน ๑๗ คน ดังนี้
๑. สาขาทัศนศิลป์ จำนวน ๕ คน ได้แก่
๑.๑ นายสมศักดิ์ เชาวน์ธาดาพงศ์ (จิตรกรรม)
๑.๒ นายศราวุธ ดวงจำปา (ประติมากรรม)
๑.๓ นายเสวต เทศน์ธรรม (ประติมากรรม)
๑.๔ นายสมชาย แก้วทอง (การออกแบบแฟชั่น)
๑.๕ นายสิน พงษ์หาญยุทธ (สถาปัตยกรรม)
คำประกาศเกียรติคุณ สาขาทัศนศิลป์
๒. สาขาวรรณศิลป์ จำนวน ๓ คน ได้แก่
๒.๑ นางเพ็ญศรี เคียงศิริ
๒.๒ นายพิบูลศักดิ์ ละครพล
๒.๓ นายเทพศิริ สุขโสภา
คำประกาศเกียรติคุณ สาขาวรรณศิลป์
๓. สาขาศิลปะการแสดง จำนวน ๙ คน ได้แก่
๓.๑ นางสุรางค์ ดุริยพันธุ์ (คีตศิลป์)
๓.๒ นางรัตติยะ วิกสิตพงศ์ (นาฏศิลป์ไทย)
๓.๓ นายบุญศรี รัตนัง (ดนตรีพื้นบ้านล้านนา)
๓.๔ นายวิรัช อยู่ถาวร (ดนตรีสากล)
๓.๕ ท่านผู้หญิงวราพร ปราโมช ณ อยุธยา (นาฏศิลป์สากล)
๓.๖ นายพิมพ์ปฏิภาณ พึ่งธรรมจิตต์ (ดนตรีไทยสากล)
๓.๗ ศาสตราจารย์มัทนี รัตนิน (ละครเวที)
๓.๘ นายยุทธนา มุกดาสนิท (ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์)
๓.๙ นายคเณศ เค้ามูลคดี (ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์)
คำประกาศเกียรติคุณ สาขาศิลปะการแสดง
ประธานกวช.กล่าวต่อว่า ผู้ที่ได้รับยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ จะได้รับค่าตอบแทน เดือนละ ๒๕,๐๐๐ บาท ค่ารักษาพยาบาลตามระเบียบราชการ รวมทั้งมีค่าช่วยเหลือเมื่อประสบสาธารณภัย ครั้งละไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท และหากเสียชีวิตจะมีค่าช่วยเหลืองานบำเพ็ญกุศลศพ ๒๐,๐๐๐ บาท เงินช่วยเหลือค่าจัดทำหนังสือเผยแพร่ผลงานเมื่อเสียชีวิตไม่เกิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท เป็นต้น ในการนี้ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รองประธานกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) เปิดเผยถึงเกณฑ์การคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ ประกอบด้วย ๓ หลักเกณฑ์ใหญ่ ดังนี้
เกณฑ์ที่ ๑. คุณสมบัติของศิลปินแห่งชาติ
มี ๖ ประการ ได้แก่ เป็นผู้มีสัญชาติไทยและยังมีชีวิตอยู่ในวันประกาศยกย่อง / เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญ และมีผลงานดีเด่นเป็นที่ยอมรับของวงการศิลปะในสาขานั้น / เป็นผู้สร้างสรรค์และพัฒนาศิลปะในสาขาที่ได้รับการประกาศยกย่อง / เป็นผู้ผดุง ถ่ายทอด เผยแพร่ หรือเป็นต้นแบบศิลปะในสาขาที่ได้รับการประกาศยกย่อง / เป็นผู้มีคุณธรรม ทุ่มเท และเสียสละเพื่องานศิลปะ / และเป็นผู้มีผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและมนุษยชาติ
เกณฑ์ที่ ๒. คุณค่ามาตรฐานผลงานศิลปะของศิลปินแห่งชาติ
ผลงานต้องสื่อให้เห็นถึงคุณค่าในความดี ความจริง ความงาม อารมณ์ และคุณค่าทางจิตวิญญาณ แสดงออกถึงแนวคิด สร้างพลังความรู้และพัฒนาสติปัญญาแก่มนุษยชาติ ก่อให้เกิดความรู้สึกสะเทือนอารมณ์ และส่งเสริมจินตนาการ และเป็นผลงานสร้างสรรค์มีเอกลักษณ์ มีทักษะสูงส่ง มีกลวิธีเชิงสร้างสรรค์ ไม่แสดงเจตนาหรือจงใจคัดลอกหรือเลียนแบบผลงานของผู้อื่นทั้งเปิดเผยและแอบแฝง
เกณฑ์ที่ ๓. การเผยแพร่และการยอมรับคุณค่าผลงานของศิลปินแห่งชาติ
ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นศิลปินแห่งชาติ จะต้องมีการเผยแพร่ผลงานและได้รับการยอมรับ คุณค่าในผลงาน ดังนี้ เป็นผลงานที่ได้รับการจัดแสดง ถ่ายทอดหรือเผยแพร่ต่อสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง มีหลักฐาน อ้างอิง โดยเป็นผลงานที่แสดงให้เห็นถึงแนวคิด พัฒนาการทางงานศิลปะอย่างเด่นชัด และเป็นผลงานได้รับรางวัล หรือเกียรติคุณระดับภูมิภาค ระดับชาติ หรือระดับนานาชาติ ซึ่งมีกระบวนการพิจารณาที่มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับ
ซึ่งการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ นี้ จะทำการคัดเลือกใน ๓ สาขา ได้แก่
๑. สาขาทัศนศิลป์ หมายถึง ศิลปะที่มองเห็นได้ด้วยตา แบ่งเป็น วิจิตรศิลป์ และประยุกต์ศิลป์ วิจิตรศิลป์ ได้แก่ จิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ สื่อผสม และภาพถ่าย ส่วนประยุกต์ศิลป์ ได้แก่ สถาปัตยกรรมแบบประเพณีและร่วมสมัย มัณฑนศิลป์ การออกแบบผังเมือง การออกแบบอุตสาหกรรม และประณีตศิลป์ เป็นต้น
๒. สาขาวรรณศิลป์ หมายถึง บทประพันธ์ที่แต่งอย่างมีศิลปะทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง มีองค์ประกอบที่สำคัญคือ ความรู้สึกสะเทือนใจ ความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการและกลวิธีเสนอเรื่องที่น่าสนใจ
๓. สาขาศิลปะการแสดง หมายถึง ศิลปะที่มีการแสดง ที่เป็นได้ทั้งวิจิตรศิลป์ ประยุกต์ศิลป์ รวมทั้งศิลปะพื้นบ้าน โดยแบ่งเป็น ๓ ประเภท ได้แก่ ๑.ดนตรีไทย นาฏศิลป์ไทยและศิลปะการแสดงพื้นบ้าน ๒.ดนตรีสากลและนาฏศิลป์สากล ๓.ภาพยนตร์และละคร
นับตั้งแต่เริ่มโครงการศิลปินแห่งชาติเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๗ มีศิลปินแห่งชาติ ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติแล้ว ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๘ - ๒๕๕๙ มีจำนวน ๒๗๘ คน และปีล่าสุด พ.ศ. ๒๕๖๐ จำนวน ๑๗ คน รวมมีจำนวนทั้งสิ้น ๒๙๕ คน เสียชีวิตไปแล้ว ๑๒๘ คน มีชีวิตอยู่ ๑๖๗ คน
อนึ่ง กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จะทำหนังสือกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสนำศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๐ ทั้ง ๑๗ คน เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานเข็มและโล่เชิดชูเกียรติ ในวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นวันศิลปินแห่งชาติ หรือวัน เวลาใด ตามแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
โดยภายหลังจากนี้จะได้จัดงานเชิดชูเกียรติศิลปินแห่งชาติ อันประกอบด้วย งานเลี้ยงแสดงความยินดี งานนิทรรศการและสื่อเผยแพร่ชีวประวัติและผลงานของศิลปินแห่งชาติ ผ่านสื่อต่างๆ ต่อไป
สำหรับเยาวชนและประชาชนผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับประวัติและผลงานของศิลปินแห่งชาติเพิ่มเติมได้ที่
www.culture.go.th หรือทาง เฟสบุ๊คกรมส่งเสริมวัฒนธรรมwww.facebook.com/DCP.culture