นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุม อ.ก.พ.สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
วันนี้ (26 มี.ค.2561) นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุม อ.ก.พ.สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีวาระสำคัญในการพิจารณาลงโทษทางวินัย กรณีนางรจนา สินที ข้าราชการระดับชำนาญการพิเศษ สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้ทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า จากผลการสอบสวน ข้าราชการรายดังกล่าวได้รับสารภาพข้อกล่าวหาดังกล่าว ซึ่งที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของนางรจนา สินที เป็นการกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ มติของคณะรัฐมนตรี นโยบายของรัฐบาล และไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ และฐานรายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต ฐานกระทำอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 82 (2) มาตรา 83 (1) ประกอบมาตรา 85 (1) (4) และ (7) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551
เพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับการลงโทษข้าราชการผู้กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร 0205/ว 234 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2536 ที่ประชุมจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ 7 : 0 ให้ลงโทษไล่นางรจนา สินที ออกจากราชการ มีผลทันที
ในส่วนของผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงจะดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการขอขอบคุณความร่วมมือจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ที่ร่วมกันทำงานจนสามารถรวบรวมหลักฐานเพื่อตั้งข้อกล่าวหา นำมาสู่การพิจารณาในวันนี้ ซึ่งเป็นการลงโทษทางวินัยราชการ
ส่วนขั้นตอนต่อไป เป็นหน้าที่ของทาง ปปง. และ ป.ป.ท. ในการดำเนินการยึดทรัพย์และรวบรวมข้อมูลส่งให้อัยการเพื่อฟ้องศาลต่อไป
*อนึ่ง ในวันเดียวกัน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ได้เปิดเผยภายหลังให้การต้อนรับและหารือการจัดการศึกษาเอกชนร่วมกับ ดร.จิระพันธุ์ พิมพ์พันธุ์ ประธานสภาการศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย และคณะ เกี่ยวกับการเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามการทุจริตของกระทรวงศึกษาธิการด้วยว่า ศธ.พร้อมมีบทลงโทษทางวินัยกรณีเกิดการกระทำผิด เพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดขึ้นอีก สิ่งสำคัญที่เป็นจุดเริ่มต้นของการตรวจสอบต่าง ๆ ก็คือ “การข่าว” ที่จะขอให้หลาย ๆ ฝ่ายช่วยกันแจ้งเข้ามา เช่นเดียวกับที่นายกรัฐมนตรีให้ประชาชนช่วยแจ้งข่าวมายังส่วนกลาง เพราะประเทศเราจะโปร่งใสได้ทุกคนต้องร่วมมือกัน ไม่ใช่งานของกระทรวงที่จะปราบได้หมดจดเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีขั้นตอนการปรามและการนำเหตุการณ์ต่าง ๆ มาเป็นบทเรียนด้วย
ดังเช่นการหารือกับสภาการศึกษาเอกชนฯ ในครั้งนี้ ทำให้ได้การข่าวที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานในหลายเรื่อง อาทิ กรณีการแจ้งรายชื่อนักเรียนล่องหนหรือนักเรียนผี เพื่อขอรับเงินอุดหนุนรายหัวจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เป็นต้น*