เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบ หลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย โดยจะเปิดรับสมัครในเดือนมิถุนายน สอบเดือนกรกฎาคม และรอบนี้จะบรรจุ วันที่ 1 ตุลาคม เพื่อแก้ปัญหาในภาพรวม ทั้งการทดแทนอัตราเกษียณอายุราชการ รวมถึงไม่ให้กระทบกับอัตรากำลังครูโรงเรียนเอกชน
เปิดสอบใน 75 จังหวัด รวม 98 กลุ่มสาขาวิชา จังหวัดที่ไม่ประสงค์เปิดสอบ ได้แก่ จังหวัดพะเยา อำนาจเจริญ และสงขลา ทั้งนี้
นอกจากรับผู้ที่จบในคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ทั่วไปแล้ว ยังเปิดรับสาขาขาดแคลน แบ่งเป็น กลุ่มวิชา หรือสาขาวิชาเอกที่ไม่เปิดสอนในหลักสูตรคุรุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ระดับปริญญาตรี 5 ปี หรือเปิดสอนแต่ยังไม่มีผู้สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรระดับปริญญา 5 ปี จำนวน 32 กลุ่มวิชา ได้แก่ ภาษาสเปน ภาษาเกาหลี ภาษาพม่า ภาษาเขมร ภาษาเวียดนาม ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ การพยาบาล ดนตรีพื้นเมือง ออกแบบนิเทศศิลป์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมไฟฟ้า อุตสาหกรรมศิลป์ อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรม (ก่อสร้าง) อุตสาหกรรมศิลป์ (ช่างยนต์) อุตสาหกรรมไฟฟ้า ช่างโลหะ การจัดการงานก่อสร้าง โสตทัศนศึกษา การเงินและบัญชี การเงินและการบัญชี การเงิน/บัญชี การเงินบัญชี การเงินการบัญชี ธุรกิจการเงินการบัญชี ธุรกิจ (การเงิน) ธุรกิจ (พัสดุ) พัสดุ กายภาพบำบัด กิจกรรมบำบัด จิตวิทยาคลินิก
นพ.ธีระเกียรติกล่าวต่อว่า อีกส่วนคือ กลุ่มวิชา หรือสาขาวิชาเอกที่มีความจำเป็นต่อการจัดการเรียนการสอน แต่มีความขาดแคลนซ้ำซาก ไม่มีคนมาสอบ หรือมาสอบแล้ว ไม่มีผู้สอบได้ ซึ่งจะดูความขาดแคลนเป็นจังหวัด ไม่ใช่ขาดแคลนภาพรวม โดยแต่ละจังหวัดต้องไปดูว่า มีสาขาที่ขาดแคลนจริงๆ แล้วเท่าไร จำนวน 10 กลุ่มวิชา ได้แก่ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเยอรมัน ภาษาจีน ดนตรี ดนตรีศึกษา ดนตรีไทย ดนตรีสากล ดุริยางคศิลป์ ทัศนศิลป์ โดยผู้สมัครสอบแข่งขันต้องได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หรือหลักฐานที่ใช้แสดงในการประกอบวิชาชีพครูตามที่คุรุสภาออกให้ก่อนหรือวันเปิดรับสมัครสอบแข่งขันวันสุดท้าย ยกเว้น ผู้สมัครสอบแข่งขันที่มีคุณวุฒิในประเภทวิชาหรือสาขาวิชาขาดแคลน ตามที่ส่วนราชการกำหนด ต้องได้รับใบอนุญาตฯก่อนการบรรจุและแต่งตั้งเป็นครูผู้ช่วย สำหรับผู้สมัครที่เป็นข้าราชการอื่นหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ต้องมีหนังสืออนุญาตจากผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งให้สมัครสอบแข่งขัน และยินยอมให้ย้ายหรือโอนเมื่อสอบแข่งขันได้ และให้บรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งครูผู้ช่วย
นพ.ธีระเกียรติกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม
ผู้เข้าสอบจะต้องได้คะแนนการภาค ก ความรอบรู้ ความสามารถทั่วไป และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรมและอุดมการณ์ของความเป็นครู และมาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษา ภาค ข ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ถึงจะมีสิทธิเข้าสอบภาค ค ความเหมาะสมกับตำแหน่งและวิชาชีพ โดยข้อสอบภาค ก จะมีการเพิ่มความรู้เรื่องยุทธศาสตร์ชาติ การปฏิรูปและความเป็นไปในบ้านเมือง ซึ่งผู้เข้าสอบสามารถดูรายละเอียดได้จากหลักเกณฑ์การสมัครที่ สพฐ. จะประกาศ
ข้อมูลจาก มติชนออนไลน์
https://www.matichon.co.th/education/news_957798