“ท่อไอเสีย” เมื่อเกิดอาการ “เสีย” ขึ้นมา ก็สร้างปัญหาให้กับเครื่องยนต์ส่วนอื่นๆได้ครับ แม้ท่อไอเสียจะเป็นองค์ประกอบเล็กๆของรถแต่ก็ไม่ควรมองข้าม จึงควรให้ความสำคัญและหมั่นตรวจสอบ โดยอาจเช็คง่ายๆด้วยตนเอง หรือนำรถเข้าศูนย์เพื่อให้ช่างมืออาชีพตรวจสอบ จะได้ปลอดภัยไร้กังวลว่าจะมีปัญหาอื่นๆตามมานั่นเอง
“ท่อไอเสีย” มีหน้าที่ไว้สำหรับระบายควันเสียเท่านั้นจริงหรือ?? ผมเชื่อว่ากว่า 80% ของคนใช้รถใช้ถนนทั่วไปคิดอย่างนั้น แต่จริงๆ แล้ว “ท่อไอเสีย” มีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้นมา รถคุณอาจพัง หรือทำให้เกิดอุบัติเหตุจนถึงแก่ชีวิตได้เช่นกัน
แล้วอย่างไรถึงเรียกว่า “ท่อไอเสีย” สมบูรณ์ พร้อมใช้งาน…
ให้สังเกตง่ายๆครับ “ท่อไอเสีย” สภาพดี จะต้องไม่มีกลิ่นเหม็นควันเข้าไปในห้องโดยสาร ไม่มีควันดำจนผิดปกติและไม่มีเสียงดัง สนิมไม่จับ เป็นต้น โดยวิธีตรวจเช็คง๊าย…ง่าย ที่คุณสามารถทำได้เองก่อนที่เรื่องจะบานปลาย มีดังต่อไปนี้ครับ…
1. เช็คด้วยตาเปล่า วิธีนี้อาจต้องมีตัวช่วยเป็น “แม่แรง” นิดนึงครับ เพราะต้องยกรถให้สูงขึ้น เพื่อจะได้ตรวจสอบว่าท่อไอเสียมีรูหรือมีสนิมเกาะเป็นจำนวนมากหรือไม่ ซึ่งปัญหาทั้งสองมักนำมาซึ่งการเกิดปัญหาใหม่ที่ใหญ่ และแก้ยากกว่า
2. ฟังเสียง หากท่อไอเสียชำรุดหรือเกิดอาการผิดปกติ จะส่งเสียงดังกว่าปกติ ฉะนั้นจึงควรหมั่นฟังเสียง และสังเกตเสียงที่สั่นผิดปกติอยู่เสมอ เพราะอาจเป็นเสียงของอาการท่อไอเสียหลุดหลวม หรือแตกหักนั่นเอง
3. มีน้ำรั่วหรือไม่ ควรหมั่นตรวจสภาพใต้ท้องรถเสมอ ดูว่ามีน้ำหยดหรือไม่ ถ้ามีการรั่วไหลของน้ำในหลายๆจุด แสดงให้เห็นว่าท่อไอเสียเกิดการชำรุดอย่างชัดเจน
4. ตรวจเช็คอุณหภูมิ ในขณะที่ขับรถออกไปได้สักพักแล้ว ให้ตรวจเช็คอุณหภูมิรถว่าอยู่ในระดับปกติไหม หากมีความเสียหายเกิดขึ้นที่ท่อไอเสีย อุณหภูมิของรถจะสูงกว่าปกติ ซึ่งต้องได้รับการแก้ไขโดยทันที
“ท่อไอเสีย” กำลังจะพัง!! อาการเป็นแบบนี้ไง…
1. ท่อไอเสียสนิมจับ มีรอยแตก ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณอันตรายที่ไม่ควรมองข้ามครับ ฉะนั้นควรหมั่นทำความสะอาดด้วยการเช็ดท่อไอเสียรถคุณด้วยนะครับ จะได้เห็นว่าสภาพท่อยังปกติ หรือมีรอยบุบพังไหม หากพบจะรีบนำไปให้ช่างตรวจสอบได้ทันท่วงที
2. เสียงดังครืด…ครืด ดังมาจากเครื่องยนต์ หมายความว่าท่อไอเสียรถคุณกำลังแย่เข้าแล้ว!! ยิ่งถ้าจู่ๆ ดังขึ้นมาแบบไม่มีสัญญาณเตือน ยิ่งควรรีบนำเข้าศูนย์บริการให้ตรวจสอบโดยไว เพราะยิ่งปล่อยไว้นานอาจส่งผลต่อส่วนอื่นๆ ของเครื่องยนต์ได้ ซึ่งวิธีสังเกตความผิดปกติสามารถทำได้ง่ายๆ โดยหากปกติคุณเปิดเพลงหรือวิทยุคลอฟังในระดับปกติเป็นประจำ แต่อยู่ๆ กลับต้องเปิดเสียงวิทยุบนรถให้ดังถึงจะสามารถฟังได้ชัด แสดงว่าเสียงเครื่องยนต์ของคุณเริ่มดังเกินไปแล้ว ควรรีบนำรถเข้าเช็คที่ศูนย์บริการทันที
3. อยู่ๆก็เกิดเสียงรั่ว หากเกิดเสียงรั่วมาจากเครื่องยนต์ในขณะที่เครื่องกำลังทำงาน นั่นหมายความว่าเครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยาหรือแคทาลิติกคอนเวอร์เตอร์บนรถคุณกำลังพังครับ เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นรถจะสามารถใช้งานได้สักระยะ แต่ก็ควรนำรถเข้าตรวจเช็คก่อนที่จะเกิดความเสียหายไปมากกว่านี้ครับ
4. คันเร่งเล่นแง่ ในขณะที่เหยียบคันเร่งแต่คุณสัมผัสได้ถึงการสั่นแบบผิดปกติ บ่งบอกว่าอาจเกิดการแตกรั่วสักที่ในระบบท่อไอเสีย ซึ่งหากเป็นรอยรั่วขนาดใหญ่จะมีเสียงดังก้องขึ้นตอนกำลังติดเครื่อง อันตรายมากครับ ควรรีบนำไปตรวจเช็คทันที
5. รู้สึกว่าประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์แย่ลง
แม้จะขับรถไปในที่เดิมๆ ระยะเวลาเดิมๆ เติมน้ำมันเท่าเดิม แต่ไม่รู้ทำไมรู้สึกว่าเครื่องยนต์ทำงานหนักจนทำให้น้ำมันหมดไวขึ้น สันนิษฐานได้เลยครับว่าท่อไอเสียกำลังจะพังเป็นแน่แล้ว ต้องรีบให้ช่างตรวจสอบให้ครับ โดยสามารถนำรถเข้าทำการตรวจเช็คได้ที่ ศูนย์บริการ โตโยต้า เค.มอเตอร์ส ทั้ง 17 สาขาได้เลย …นำรถเข้าเช็คก่อนที่อาการจะลุกลามไปส่วนอื่นๆของเครื่องยนต์ทำให้เกิดความเสียหายและพังตามท่อไอเสียไปนะครับ
ข้อมูลดีๆ จาก
http://www.kmotors.co.th