รัฐบาล โดยกระทรวงศึกษาธิการ ส่งเสริมพร้อมสนับสนุนโครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร (คูปองครู) เน้นคุณภาพการศึกษาจะเกิดได้ต้องที่ห้องเรียน ต้องพัฒนาครู เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม
วันนี้ (14 สิงหาคม 2561) เวลา 08.30 น. ณ บริเวณโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายแพทย์ ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นำคณะเข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอโครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร
โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวรายงานว่า
โครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร (คูปองครู) “คุณภาพการศึกษาจะเกิดได้ต้องที่ห้องเรียน ต้องพัฒนาครู เพื่อพัฒนาผู้เรียน ต้องลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ครูทุกคนต้องได้รับการพัฒนาตามที่ครูเลือกอย่างถูกต้องตามบริบทของโรงเรียน” เพื่อให้เกิดการปฏิรูปการศึกษาอย่างแท้จริง ตามนโยบายของกระทรวงฯ โดยเป็นการบูรณาการความร่วมมือของทุกหน่วยงานในการพัฒนาครู มุ่งไปที่ห้องเรียน ส่งถึงนักเรียน และต่อยอดความรู้โดยมีผู้อำนวยการโรงเรียนสร้างกลุ่มครูที่เข้มแข็งด้วยกระบวนการ PLC (Professional Learning Community) โดยจุดเริ่มจาก สพฐ.สนับสนุนงบประมาณ ให้กับครูทุกคนไม่เกิน 10,000 บาท/คน/ปีงบประมาณ ในรูปของการ shopping ความรู้ และเบิกตามใช้จ่ายจริง ผ่านระบบ E-Government ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานระบบดังกล่าว บนระบบคลาวด์ภาครัฐ (Government Cloud) ครูไม่ว่าจะเป็นสาขาวิชาใด จะได้รับโอกาสในการพัฒนาทุกคนทุกโรงเรียนทั่วประเทศ พร้อมมีการวางแผนการพัฒนาร่วมกัน ส่งผลให้เกิดแรงบันดาลใจและต่อยอดในการพัฒนาผู้เรียนโดยตรงต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวรายงานเพิ่มเติมว่า E-Government สามารถลงทะเบียนออนไลน์ของครูทั้งประเทศ และสามารถเข้าถึงได้ทั้งแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์ ทำให้สามารถวิเคราะห์ได้ว่าครูได้รับการพัฒนาอะไร จำนวนเท่าไร พร้อมกำหนดทิศทางการพัฒนาได้ โดยที่ผ่านมามีการจัดอบรมมากกว่า 50 จังหวัด ช่วยลดงบประมาณในการเดินทางไปอบรมของครูได้ อีกทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ รวมทั้งเป็นการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน ทั้งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ก.ค.ศ. และ คุรุสภา ตามลำดับ
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมนิทรรศการ “โครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร” ของ สพฐ. ด้วยความสนใจ พร้อมกล่าวว่า
โครงการนี้จะช่วยใหมีการปฏิรูปการศึกษาอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ปัจจุบันมีครูเข้าร่วมโครงการฯ แล้วกว่า 3.5 แสนคน ครอบคลุม 50 จังหวัด ทั่วประเทศ และจะขยับขยายโครงการฯ ต่อเนื่องไปให้ครบถ้วน 77 จังหวัด โดยมีครูเข้าร่วมโครงการฯ กว่า 4 แสนคน ซึ่งจะส่งผลให้ครูสามารถนำไปปรับใช้ในการจัดการเรียนรู้ เพื่อส่งต่อไปยังผู้เรียนหรือนักเรียนได้โดยตรง ซึ่งจะเป็นการนำร่องปฏิรูปการศึกษาอย่างจริงจังตามยุทธศาสตร์ชาติต่อไป
........................................................................
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก