มหัศจรรย์ "สเตมเซลล์" ทางเลือกใหม่รักษา"ข้อเข่าเสื่อม"

2 พ.ย. 2555 เวลา 08:05 | อ่าน 5,203
 
images by free.in.th

ปัจจุบัน โรคข้อเข่าเสื่อม เป็นปัญหาใหญ่ของกลุ่มคนผู้สูงวัยที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และพบเป็นโรคดังกล่าวมากขึ้นกว่าเดิมถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ทั้งยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนใหญ่แล้วมักจะพบมากในผู้สูงอายุผู้ที่ใช้ข้อเข่านานๆ และผู้ที่เป็นโรคอ้วน ซึ่งเกิดจากการเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนผิวข้อ อันเนื่องมาจากมีอายุมาก หรือมีการฉีกขาดและการถูกทำลายของพื้นผิวกระดูกอ่อนของข้อต่อ ทำให้เกิดอาการปวดเวลาขยับหรือลงน้ำหนัก เพราะเมื่อน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 1 กิโลกรัม (กก.) นั่นหมายถึงหัวเข่าต้องรับน้ำหนักเพิ่มขึ้นถึง 4 กก. (เฉลี่ยข้างละ 2 กก.) เพราะฉะนั้นถ้าน้ำหนักเพิ่มขึ้น 10 กก. หัวเข่าจะต้องรับน้ำหนักเพิ่มขึ้นถึง 40 กก.

images by free.in.th

ผลสำรวจจากทั่วโลกพบว่าในคนที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป 100 คน เสี่ยงต่อการเป็นโรคข้อเข่ามีถึง 33 คน โดยในจำนวนนี้เป็นผู้หญิง 19 คน และผู้ชาย 14 คน และยังพบอีกว่าเกือบ 100% ของคนที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป เสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน

ด้วยเหตุดังกล่าว ล่าสุดจึงได้มีงานวิจัยซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ในการรักษาโรคดังกล่าวนี้ขึ้นมารองรับ นั่นคือ การปลูกถ่ายกระดูกอ่อนจากสเตมเซลล์เลือดโดยการผ่าตัดผ่านกล้องวีดิทัศน์ ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยอย่างมหาศาล เพราะนอกจากจะช่วยลดความเจ็บปวดแล้ว ยังช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นตามธรรมชาติ เนื่องจากโดยปกติแล้วกระดูกอ่อนของคนเราเมื่อเกิดปัญหาหรือเสื่อมจะไม่สามารถรักษาได้รอเพียงแค่เวลาให้เสียไปเพียงอย่างเดียว
ทีมแพทย์

ขณะเดียวกันยังช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายอีกด้วย โดยมีข้อมูลระบุว่า ปัจจุบันมีประชากรกว่า 1 ล้านคน ที่อายุมากกว่า 60 ปี ต้องรักษาโรคดังกล่าวโดยใช้งบประมาณของประเทศปีละกว่า 3,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากสถิติพบว่ามีผู้ป่วยสูงอายุกว่า 10,000 ราย ที่ต้องทำข้อเทียม และ 1 ใน 3 ที่รับการผ่าตัดมีอายุน้อยกว่า 60 ปี ซึ่งโดยอายุการใช้งานของข้อเทียมที่ทำจากเหล็กและไทเทเนียม ใช้ได้เพียง 10 ปี นั่นหมายความว่า ผู้ที่เป็นข้อเสื่อมและรับการผ่าตัดใส่ข้อเทียมไปแล้ว เมื่ออายุ 70 ปีก็ต้องกลับมาทำใหม่ ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายที่สูญเสียไปถึง 3 เท่า

จึงเป็นที่มาของแนวคิดที่จะพัฒนานวัตกรรมของสเตมเซลล์จากกระแสโลหิต โดย บริษัท ไทย สเตมไลฟ์ จำกัด ได้รับการอนุมัติจากแพทยสภา และได้ทดลองกับผู้ป่วยไปแล้ว 20 ราย ในระยะเวลา 1 ปี จากการสำรวจพบว่าผู้ป่วยทั้งหมดไม่มีผลข้างเคียงใดๆ อีกทั้งยังสามารถกลับไปเดินได้ดังเดิม

นพ.ดร.คอนสตานตินอส พาพาโดพูลอส (Dr.Kostas l. Papadopoulos) หรือ "ดร.คอสตาส" ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิจัยและพัฒนาทางการแพทย์ บริษัท ไทย สเตมไลฟ์ กล่าวว่า

"การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการใดที่จะช่วยเพิ่มกระดูกอ่อนได้ นอกจากเปลี่ยนเข่า หรือใช้วิธีเปลี่ยนองศากระดูก ซึ่งอันที่จริงแล้วการรักษาที่ดีที่สุดคือการรักษาด้วยระบบของร่างกายเราเอง บริษัท ไทยสเตมไลฟ์ ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนแห่งแรกของประเทศไทยที่ให้บริการเก็บแช่แข็งเซลล์ต้นกำเนิด (สเตมเซลล์) จึงได้ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม โดยการฉีดสเตมเซลล์จากกระแสโลหิตผ่านกล้องเข้าไปที่ข้อเข่าของผู้ป่วยเพื่อเพิ่มกระดูกอ่อน

ปรากฏผลเป็นที่น่าพอใจ อาการของทุกคนดีขึ้นมาก สามารถกลับมาเดินได้เป็นปกติ เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าสเตมเซลล์ของตัวเราสามารถรักษาตัวเราได้จริง"

images by free.in.th

ดร.คอสตาสบอกอีกว่า สำหรับคนที่มีอายุ 30-40 ปี ถ้าพบว่าคนในครอบครัวเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม แนะนำให้ตรวจยีนเพื่อดูความเสี่ยงของโรคในอนาคต ซึ่งถ้าพบว่ามีความเสี่ยงก็ควรที่จะเก็บสเตมเซลล์ตั้งแต่ยังอายุน้อยๆ เพราะจะทำให้ได้สเตมเซลล์ที่แข็งแรงและมีประสิทธิภาพมากกว่าการเก็บตอนที่มีอายุมากขึ้น โดยที่สเตมเซลล์ของตนเองที่เก็บไว้สามารถนำมาให้เพื่อการรักษาโรคชนิดอื่นๆ อีกถึง 24 ชนิด รวมถึงโรคเลือดด้วย

"การใช้สเตมเซลล์ที่ดีที่สุด คือสเตมเซลล์ของตัวเอง เพราะไม่เกิดการต่อต้านและปลอดภัย และไม่ต้องจับคู่เนื้อเยื่อจากคนอื่น เนื่องจากมาจากตัวผู้ป่วยเอง แต่ถ้านำสเตมเซลล์ของคนอื่นมาใช้ต้องใช้ยากดภูมิเพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับร่างกาย"

การรักษาด้วยสเตมเซลล์จึงถือได้ว่าเป็นอีกทางเลือกใหม่สำหรับผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม ที่จะกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีอีกครั้ง

หน้า 21,มติชนรายวัน ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน 2555

ข้อมูลจาก มติชนออนไลน์ www.matichon.co.th วันที่ 01 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 10:00:48 น.


2 พ.ย. 2555 เวลา 08:05 | อ่าน 5,203
กำลังโหลด ...


รีวิวบ้านใหม่ ไอเดียสร้างบ้าน
 
แชร์
L
ซ่อน
แสดง
มาใหม่
ดวงกับดาวประจำวันที่ 20-26 เมษายน 2568
52 20 เม.ย. 2568
เตือน!!! หลังเล่นน้ำสงกรานต์ เฝ้าระวัง 5 โรคยอดฮิต แนะนำหากมีอาการรีบพบแพทย์
108 19 เม.ย. 2568
เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นทท.ชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตรตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.
22 19 เม.ย. 2568
เตือนคุณครู..!! เปิดเทอมนี้ ครูทุกคนต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะ ครูรีบต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย
101 19 เม.ย. 2568
ออกกำลังกายแล้วปวดกล้ามเนื้อจริงๆ แล้วควรหยุดพักจริงไหม?
38 17 เม.ย. 2568
ค่าตอบแทนพนักงานราชการ 2568 ใช้ในปัจจุบัน
418 17 เม.ย. 2568
สงกรานต์สุดคึกคัก! นักท่องเที่ยวต่างชาติทะลุเฉลี่ยวันละกว่าแสนคน เพิ่มขึ้นกว่า 10% รัฐบาลยืนยันเดินหน้าหนุนท่องเที่ยวไทยตลอดปี 2568
124 16 เม.ย. 2568
สงกรานต์ไป-กลับต้องปลอดภัย! รัฐบาลสั่งเข้มดูแลประชาชนเดินทางกลับ ตรวจเข้มความปลอดภัยทุกเที่ยวเสริมจุดต่อเชื่อมขนส่งสาธารณะ อำนวยความสะดวกครบวงจร
155 16 เม.ย. 2568
เตือน! นักดื่ม มีเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกัน เสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี แนะทานยา PEP ภายใน 72 ชั่วโมง รับบริการได้ที่ รพ.สังกัด สธ.
172 16 เม.ย. 2568
ปลัด สธ. แถลงอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ วันแรกเกิดอุบัติเหตุ 211 ครั้ง ส่วนใหญ่จากขับรถเร็วเกิน เตือนการใช้ยาคลายกล้ามเนื้อ อาจทำให้ง่วงและเกิดอุบัติเหตุได้
60 12 เม.ย. 2568
ดูเพิ่มเติม
 
หาเพื่อนไลน์
ไอเดียบ้านสวย
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
หางานราชการ
  English
TOEIC กับ การขึ้นเงินเดือน GED VS กศน ไทย (สอบเทียบไทย) แนะนำที่เรียน IELTS ยอดนิยม ของ เด็กอินเตอร์ TOEIC Online GED CU-TEP SAT
 
บทความกลุ่มเดียวกัน
กำลังโหลด ...