เว็บไซต์องค์การอนามัยโลก รายงานถึงสาเหตุการเสียชีวิต 10 อันดับแรกทั่วโลก โดยระบุว่า จากตัวเลขการเสียชีวิต 56.9 ล้านรายในปี 2559 นั้นกว่าครึ่ง (ร้อยละ 54) เชื่อมโยงกับสาเหตุการเสียชีวิต 10 อันดับแรก โรคหลอดเลือดหัวใจตีบและสโตรกเป็นสาเหตุสำคัญที่สุดด้วยตัวเลขรวม 15.2 ล้านรายในปี 2559 และยังคงเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตตลอด 15 ปีที่ผ่านมา
ประเมินว่าโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังคร่าชีวิตผู้คนราว 3 ล้านในปี 2559 ขณะที่มะเร็งปอด (รวมถึงมะเร็งหลอดลมใหญ่และหลอดลม) อยู่ที่ราว 1.7 ล้านราย ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำกว่า 1 ล้านรายในปี 2543 มาที่ราว 1.6 ล้านรายในปี 2559 การเสียชีวิตจากโรคสมองเสื่อมเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวระหว่างปี 2543-2559 และขึ้นมาเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 5 ในปี 2559 จากอันดับ 14 เดิมเมื่อปี 2543
การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่างยังคงเป็นโรคระบาดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดด้วยตัวเลข 3.0 ล้านรายทั่วโลกในปี 2559 อัตราการเสียชีวิตจากโรคท้องร่วงลดลงเกือบ 1 ล้านรายระหว่างปี 2543-2559 แต่ก็ยังคงมีตัวเลขสูงถึง 1.4 ล้านราย เช่นเดียวกับการเสียชีวิตจากวัณโรคซึ่งลดลงในช่วงเดียวกันแต่ก็ยังติดกลุ่ม 10 สาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตทั่วโลกด้วยจำนวนผู้เสียชีวิต 1.0 ล้านรายในปี 2559 เทียบกับ 1.5 ล้านรายเมื่อปี 2543
เหตุใดจึงต้องศึกษาสาเหตุการเสียชีวิต
การติดตามตัวเลขการเสียชีวิตรายปีและสาเหตุการเสียชีวิตเป็นหนึ่งในกระบวนการสำคัญที่สุด (เช่นเดียวกับการประเมินผลกระทบจากโรคและการบาดเจ็บ) สำหรับประเมินประสิทธิภาพของระบบสาธารณสุขของประเทศ
สถิติสาเหตุการเสียชีวิตช่วยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสามารถกำหนดมาตรการสาธารณสุขเพื่อแก้ไขช่องว่างเร่งด่วน เช่น ประเทศที่การเสียชีวิตจากโรคหัวใจและโรคเบาหวานสูงขึ้นอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่ปี จะทุ่มความสนใจไปที่แผนปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อป้องกันโรคดังกล่าว เช่นเดียวกับประเทศที่พบว่าเด็กจำนวนมากเสียชีวิตจากปอดอักเสบแต่มีงบประมาณในการรักษาจำกัดก็สามารถหากทางแก้ไขโดยเพิ่มงบประมาณเพื่อรองรับผู้ป่วย
กลุ่มประเทศรายได้สูงมีระบบเก็บข้อมูลสาเหตุการเสียชีวิตพร้อมสรรพ ขณะที่หลายชาติในกลุ่มประเทศรายได้น้อยและรายได้ปานกลางยังไม่มีระบบดังกล่าวทำให้การประเมินสาเหตุการเสียชีวิตอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้เองการปรับปรุงข้อมูลสาเหตุการเสียชีวิตให้มีคุณภาพสูงจึงเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งสำหรับยกระดับสุขภาพและลดการเสียชีวิตจากโรคที่สามารถป้องกันได้ในกลุ่มประเทศดังกล่าว
ขอบคุณที่มา แปลและเรียบเรียงจาก The top 10 causes of death:
www.who.int