รัฐบาลยืนยันไม่นำยางค้างสต๊อกเก่าออกขาย หวั่นซ้ำเติมราคาต่ำลงอีก พร้อมเตรียมพัฒนาอาชีพเสริม สร้างรายได้เพิ่มให้ชาวสวนยาง
วันนี้ (8 ก.ย. 61) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ขณะนี้ไม่มีนโยบายให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) นำยางค้างสต๊อกที่รัฐบาลก่อนปี 2557 ซื้อไว้แล้วขายไม่ออกมาขายอย่างเด็ดขาด แม้ว่าในช่วงนี้ราคายางพาราจะยังไม่มีเสถียรภาพก็ตาม เพราะจะทำให้ราคาถอยลงไปอีก
"นายกฯ อยากให้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางและสังคมได้เข้าใจข้อมูลที่ถูกต้อง หลังจากที่มีการปล่อยข่าวว่า กยท. จะนำยางแผ่นรมควันชั้น 3 ที่เก็บค้างสต๊อกอยู่ออกขาย โดยยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด"
นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า รัฐบาลห่วงใยความเป็นอยู่ของชาวสวนยาง หลังจากราคายางทรงตัวในระดับ 43-45 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่ต้นปีแล้วโดยแนวทางการช่วยเหลือนั้นจะหลีกเลี่ยงการเข้าไปแทรกแซงราคา เพราะการซื้อยางในราคานำตลาดหรือการซื้อมาเก็บ รวมไปถึงการรับจำนำยางด้วยนั้น จะต้องใช้เงินจำนวนมากและจะก่อให้เกิดปัญหาตามมา เนื่องจากต้องเสียค่าเช่าสถานที่เก็บรักษา และหากขายต่อไม่ได้ก็จะกลายเป็นสต๊อกยางค้าง
"นายกฯ ว่าการช่วยเหลือชาวสวนยางจะเน้นการพัฒนาอาชีพเสริม หรือเพิ่มทางเลือกในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากการทำสวนยาง โดยขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำลังพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือค่าครองชีพสำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนชาวสวนยางของ กยท. ไว้ราว 1.3 ล้านคน แต่ชาวสวนยางจะต้องเข้ารับการฝึกอบรม เพื่อพัฒนาทักษะอาชีพและนำไปต่อยอดหารายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัวต่อไป"
………………………………………………..