คนไทยเกือบ 4 แสนคนที่กำลังกินยาต้านไวรัสสำหรับรักษาโรคติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์ในขณะนี้ เมื่อได้ทราบข่าวที่แชร์ในโลกโซเชียลว่าน้ำมันกัญชาช่วยรักษาโรคเอดส์ได้ (ดูรูป) อาจทดลองน้ำมันกัญชาควบคู่กับยาต้านไวรัส หรือบางคนอาจทิ้งยาต้านไวรัส ไปใช้น้ำมันกัญชาอย่างเดียว โดยไม่คิดตรึกตรองให้ดี ในข่าวเพียงแต่บอกว่าหลังจากใช้น้ำมันกัญชา 24 วัน คนไข้โรคเอดส์ที่จังหวัดเพชรบูรณ์นอนไม่ได้สติ กลับมาขยับตัว ทานอาหารได้ ไม่มีการให้ข้อมูลในผู้ป่วยรายนี้กินยาต้านไวรัส และยาอื่นๆสำหรับโรคติดเชื้อฉวยโอกาสหรือไม่ ในข่าวไม่ได้บอกว่าน้ำมันกัญชาสามารถฆ่าเชื้อเอชไอวีได้ ไม่มีหลักฐานในโลกนี้ยืนยันว่าน้ำมันกัญชาสามารถรักษาโรคติดเชื้อเอชไอวีได้ มีแต่ยาต้านไวรัสเท่านั้นที่สามารถทำให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีแข็งแรง มีอายุยืนยาวเหมือนคนปกติ
ผมขอเตือนผู้ติดเชื้อเอชไอวีด้วยความปรารถนาดีว่า
1. อย่าใช้น้ำมันกัญชาควบคู่กับยาต้านไวรัส เพราะมีงานวิจัยว่าสารในน้ำมันกัญชามีปฏิกิริยากับยาต้านไวรัส ลดระดับยาต้านไวรัสบางตัว อาจทำให้การรักษาด้วยยาต้านไวรัสล้มเหลว นอกจากนั้นยาด้านไวรัสบางตัวมีปฏิกิริยากับน้ำมันกัญชา เพิ่มฤทธิ์ของสาร THC ซึ่งเป็นสารเสพติดมีฤทธิ์ต่อจิตประสาทมากขึ้น
2. ห้ามหยุดยาต้านไวรัสแล้วไปกินน้ำมันกัญชาแทนเด็ดขาด เพราะหลังจากหยุดยาต้านไวรัส เชื้อเอชไอวีจะพัฒนาตัวเองให้ดื้อต่อยาต้านไวรัสที่เคยกิน ทำให้ผู้ป่วยต้องเปลี่ยนยาต้านไวรัสเป็นสูตรใหม่ซึ่งมีราคาแพงขึ้นจากเดิม 10 เท่า สร้างความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจ และสาธารณสุขของชาติอย่างมากมาย
ข้อมูลจาก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC