ยางล้อแบนแฟ่บ!
หลายคนอาจเคยมีประสบการณ์รถโดนตะปูตำที่ยาง ผมถือว่าเป็นสถานการณ์วัดใจก็ว่าได้ครับว่าจะดึงตะปูออกมาดีหรือไม่ ถ้าเจอตะปูขนาดสั้นก็ถือว่าโชคดีไปครับ แต่ถ้าเจอตะปูแบบยาวขอบอกเลยว่าอาจจะถึงต้องกุมขมับก็เป็นได้ นั่นหมายความว่าหากดึงตะปูออกมาจะมีลมรั่วซึมออกมาจากยางอย่างแน่นอน
ทางที่ดีถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้อย่าเพิ่งรีบดึงตะปูออกมาเลยครับ เพราะจะทำให้ยางแบนจนแฟ่บวิ่งไม่ได้ ให้ลองเช็กก่อนว่าตะปูมันฝังยางลึกไหม ขนาดเท่าไหร่ โดยให้ลองเทียบความยาวของตะปูกับร่องยางว่ามันจะลึกลงไปแค่ไหน หากดูแล้วน็อตหรือตะปูลึกเลยร่องยางลงไป อย่าดึงออกจะดีที่สุด
กรณีที่ไม่มียางอะไหล่ควรขับเคลื่อนไปช้าๆ เพื่อประคับประคองให้ถึงร้านปะยางที่ใกล้ที่สุดให้ได้ โดยการบังคับพวกมาลัยช้าๆ แต่มั่นคง เบรกอย่างระมัดระวังและเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าล้อหน้าเกิดแตกขึ้นมา แต่ล้อหลังยังพอใช้ได้ให้ขับโดยการลดเกียร์ จะสามารถทุเลาได้ ในทางกลับกันที่ล้อหน้าใช้งานได้ ให้ทำเพียงเบรกเบาๆ เท่านั้น เพราะการลดเกียร์ต่ำจะทำให้ล้อหน้ากระตุกและเสียการทรงตัว หากว่ายางยังไม่แบนมากให้ค่อยๆ ขับช้าๆ หลบเข้าข้างทาง แล้วทำการเปลี่ยนอะไหล่ (กรณีที่มียางอะไหล่สำรอง) แล้วค่อยไปร้านปะยางครับ เหตุผลก็เพราะว่าถ้ายางล้อแบบมากๆ ขับบดเป็นระยะทางไกลๆ จะทำให้กระทะล้อกดลงบนแก้มยางจนเกิดความเสียหายรุนแรงและไม่สามารถใช้งานได้อีก
ข้อแนะนำสำหรับสาวๆ ที่พบเจอปัญหานี้ หากรอยรั่วที่ไม่ได้ใหญ่มาก สามารถใช้สเปรย์อุดรอยรั่วของยางล้อได้ ซึ่งช่วยแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่งเลยครับ
เมื่อขับรถเหยียบตะปูมา ควรปะยางอย่างไร โดยหลักแล้วการปะยางจะมีด้วยกัน 2 วิธี คือ
1. การปะยางแบบสตรีมร้อน
2. การปะยางแบบวิธีสอดไส้
การปะยางแบบสตรีมร้อน วิธีนี้เหมาะสำหรับยางรุ่นใหม่ ที่ไม่มีไส้ใน โดยจะทำการถอดล้อออก และใช้ยางปะชนิดพิเศษที่ผ่านการหลอมแล้วประกบรอยชำรุดให้สนิท ทิ้งไว่สักครู่ก็สามารถใช้งานได้แล้วครับ
การปะยางแบบวิธีสอดไส้ เหมาะสำหรับล้อรถที่มีไส้ใน ขั้นตอนคือไม่ต้องถอดยางออกจากกระทะล้อ เป็นวิธีที่รวดเร็ว แต่รับน้ำหนักและทนความร้อนได้ไม่ดีเท่าวิธีการสตรีม
ข้อมูลจาก ช่างเค มอเตอร์