เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ หัวหน้าแพทย์ศูนย์ตรวจสุขภาพ โรงพยาบาล (รพ.) พญาไท 2 บรรยายเรื่อง "การปฏิวัติพฤติกรรมเพื่อต่อต้านโรคเรื้อรัง" ระหว่างร่วมกับ รพ.บ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) ตั้งโต๊ะให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และตรวจสุขภาพสายตาที่อาคารสำนักงานบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ว่า ปัจจุบันคนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งมากเป็นอันดับ 1 รองลงมาคือ โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคเอดส์ จากผลงานวิจัยของหลายมหาวิทยาลัย และการคาดการณ์ทางวิทยาศาสตร์ รายงานตรงกันว่าใน 20 ปีข้างหน้าคนไทยจะป่วยเป็นโรคหัวใจหลอดเลือดมากเป็นอันดับ 1 รองลงมาคือ โรคมะเร็ง และโรคซึมเศร้า
"สาเหตุมาจากพฤติกรรมเสี่ยงในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะกลุ่มเจเนอเรชั่นเอ็กซ์ (Generation X) หรือกลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี 2508-2522 อายุ 29-43 ปี ที่มีปัจจัยเสี่ยงทุกด้าน และสามารถคาดเดาได้ว่าจะเสียชีวิตจากสาเหตุใด สำหรับทางออกที่จะทำให้ห่างไกลจากโรคเรื้อรังเหล่านั้นคือ ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ไม่ควรกินหรือต้องลดปริมาณ 1.น้ำตาลในเครื่องดื่ม จำพวกน้ำอัดลม ชาเขียวเพื่อสุขภาพ และน้ำผลไม้ 2.ไขมันชนิดทรานส์ (Trans Fat) ที่มักพบในเค้ก คุกกี้ ขนมขบเคี้ยว เนยเทียม ครีมเทียม ไอศกรีม ฯลฯ 3.ข้าวขัดสีและธัญพืชขัดสี อาทิ ข้าวขาว เส้นก๋วยเตี๊ยว ที่ให้แคลอรีสูงมากเกินความจำเป็น เพราะในแต่ละวันผู้หญิงต้องการพลังงาน 1,200 แคลอรี ผู้ชาย 1,600 แคลอรี แต่อาหารจานเดียวส่วนใหญ่มักให้พลังงานตั้งแต่ 600 แคลอรีขึ้นไป และ 4.เกลือ" นพ.สันต์กล่าว และว่า สิ่งที่ควรกินให้มากคือ ผักและผลไม้ทุกประเภท ถั่วชนิดต่างๆ พืชเมล็ดเปลือกแข็ง อย่างเกาลัดและอัลมอนด์ ไข่วันละฟอง แต่ไม่ควรเกินสัปดาห์ละ 7 ฟอง นมพาสเจอไรซ์ไม่มีไขมัน (Zero Fat) อาหารทะเล และปลาทุกชนิด ที่สำคัญต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 5 วัน ครั้งละ 30 นาทีขึ้นไป และการบริหารกล้ามเนื้ออย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ส่วนผู้ที่ทำงานในออฟฟิศสามารถบริหารกล้ามเนื้อด้วยวิธีง่ายๆ เช่น เดินขึ้นลงบันได นั่งทำงานหลังตรงและเกร็งหน้าท้อง เป็นต้น และควรนอนหลับพักผ่อน 7-8 ชั่วโมง
ข้อมูลจาก มติชนออนไลน์
www.matichon.co.th วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 13:58:51 น.