ถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน เพราะตั้งแต่วันที่ 20 กย. 62 เจ้าพนักงานจราจรไม่มีอำนาจในการเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ของผู้ขับได้อีกต่อไป จะต้องคืนให้กับประชาชนทุกครั้ง ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พศ. 2562
โดยผู้ขับขี่ต้องพกใบอนุญาตขับขี่ขณะขับรถและต้องแสดงใบขับขี่เมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจ ซึ่งสามารถแสดงได้ 3 แบบ ได้แก่
1.
แสดงใบอนุญาตขับขี่ตัวจริง คือ ใบขับขี่ที่ออกโดยกรมการขนส่งทางบก และต้องไม่หมดอายุ
2.
ใบอนุญาตขับขี่ดิจิทอล ผ่านแอพพลิเคชัน DLT QR LICENCE วิธีการ คือ ต้องลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชันตามใบขับขี่ประเภทที่มี แต่ถ้าหากอยากเปลี่ยนเป็นแบบใหม่ สามารถติดต่อขอเปลี่ยนได้ที่ขนส่งทั่วประเทศ และถ้าตำรวจขอตรวจ จะต้องเข้ารหัสผ่านแอพพลิเคชันของขนส่ง โดยมีพาสเวิร์ดของตัวเอง จึงต้องมีอินเตอร์เนทขณะตำรวจขอตรวจด้วย
3.
แสดงสำเนาภาพถ่ายใบขับขี่รุ่นใหม่ ตามแบบฟอร์มที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด โดยต้องมีคิวอาร์โคดเพื่อให้เจ้าหน้าที่สแกนตรวจสอบในฐานข้อมูลได้ “ซึ่งไม่สามารถใช้ภาพที่ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือได้”
ทั้งนี้ ตำรวจจราจรจะไม่สามารถยึดหรืออายัดใบขับขี่ตัวจริงได้ แต่ถ้าหากผู้ขับขี่กระทำผิดสามารถไปชำระค่าปรับได้ที่โรงพักใดก็ได้ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายมาตรา 31/1 ที่ระบุว่า “ให้ผู้ขับขี่รถยนต์ต้องมีใบขับขี่อยู่กับตัวในขณะเดินรถ และต้องแสดงต่อเจ้าพนักงานจราจรเมื่อขอตรวจ ส่วนกรณีผู้ขับขี่แสดงใบขับขี่ทางอีเลคทรอนิคส์ หรือสำเนาภาพถ่ายใบขับขี่ ให้ถือว่ามีใบขับขี่อยู่กับตัว”
ชำระค่าปรับอย่างไร ?
การชำระค่าปรับ มี 2 วิธี คือ
1. ชำระค่าปรับเองในสถานีตำรวจ โดยชำระตามจำนวนที่กำหนดไว้ในใบสั่งหรือตามจำนวนที่พนักงานสอบสวนเปรียบเทียบปรับ และให้พนักงานสอบสวนทุกท้องที่ มีอำนาจในการเปรียบเทียบปรับได้ทั่วประเทศ
2. ชำระค่าปรับทางไปรษณีย์ โดยชำระจำนวนตามที่ระบุไว้ในใบสั่ง ถ้าไม่ระบุจำนวนเงินจะจ่ายทางไปรษณีย์ไม่ได้ โดยสั่งจ่ายผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมสำเนาใบสั่งส่งไปยังสถานที่ที่ระบุในใบสั่ง และให้ถือว่าใบรับส่งธนาณัติประกอบกับใบสั่ง เป็นใบแทนใบอนุญาตขับขี่ได้เป็นเวลา 10 วัน นับแต่วันที่ส่งธนาณัติ หรือชำระโดยวิธีธุรกรรมทางอีเลคทรอนิคส์ บัตรเครดิท หรือวิธีการอื่น โดยผ่านธนาคาร หรือหน่วยบริการรับชำระเงิน ตามจำนวนที่ระบุไว้ในใบสั่ง
นอกจากนี้ ทุกคนจะมี 12 แต้มเท่ากัน เท่ากับว่า 1 ปี มี 12 เดือน ทำผิดได้เพียงเดือนละครั้ง แต่บางความผิดอาจโดนตัด 2-3 แต้ม แล้วแต่ข้อหา หากโดนตัดครบ 12 แต้ม จะถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 90 วัน รวมทั้งเสียค่าใช้จ่ายเข้าอบรมใหม่และต้องสอบให้ผ่าน จึงจะได้รับแต้มคืน ที่สำคัญต้องระวังอย่าทำผิดซ้ำ เพราะถ้าผู้ขับขี่ถูกพักใช้ใบขับขี่เกินกว่า 2 ครั้ง ภายใน 3 ปี โดยในครั้งที่ 3 จะถูกพักใช้ใบขับขี่ 1 ปี และระหว่าง 1 ปีนั้น ถ้ากระทำผิดอีกเป็นครั้งที่ 4 จะถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ทันที
ผู้ขับขี่สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชันใบอนุญาตขับขี่ดิจิทอลได้ทั้งโทรศัพท์ระบบ Android และ iOS โดยค้นหาคำว่า DLT QR LICENCE
ข้อมูลจาก autoinfo.co.th/online/294936/