คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ มาตรการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายแก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

1 ต.ค. 2562 เวลา 21:01 | อ่าน 747
แชร์ไปยัง
L
 

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการขยายเวลามาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาและมาตรการชดเชยเงินให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐโดยใช้ข้อมูลจากจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้มีบัตรฯ ได้ชำระ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ


มาตรการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายแก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

สาระสำคัญ

กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอขยายเวลามาตรการบรรเทาฯ และมาตรการชดเชยเงินฯ โดยมีรายละเอียด ดังนี้


1. การขยายเวลามาตรการบรรเทาฯ โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
วัตถุประสงค์ เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง
ได้แก่ ค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา เพื่อให้ผู้มีบัตรฯ มีภาระค่าครองชีพลดลง
การดำเนินการ การขยายเวลามาตรการบรรเทาฯ จะเป็นการดำเนินการคงเดิมตามมติ
คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 มีสาระสำคัญ ดังนี้

1.1 กรณีค่าไฟฟ้า ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือนติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน

ให้ใช้สิทธิค่าไฟฟ้าฟรีตามมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบัน แต่หากใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน ให้ใช้สิทธิตามมาตรการนี้ในวงเงิน 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้เกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีบัตรฯ เป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด


1.2 กรณีค่าน้ำประปา ให้ใช้น้ำประปาในวงเงิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้เกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีบัตรฯ เป็นผู้รับภาระค่าน้ำประปาทั้งหมด

ทั้งนี้ ผู้มีบัตรฯ ต้องนำใบแจ้งค่าไฟฟ้าและใบแจ้งค่าน้ำประปาไปชำระที่สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ สำนักงานการประปานครหลวง และสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค พร้อมทั้งแสดงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยทุกสิ้นเดือนการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ การประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค จะส่งบันทึกรายชื่อผู้มีบัตรฯ ที่ใช้ไฟฟ้าและน้ำประปาภายใต้วงเงินที่กำหนดให้กรมบัญชีกลาง เพื่อที่กรมบัญชีกลางจะนำเงินจากกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมมาจ่ายคืนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในช่อง e-Money ของเดือนถัดไป ซึ่งผู้มีบัตรฯ สามารถใช้ซื้อสินค้าและบริการผ่านเครือง EDC แอปพลิเคชันถุงเงินประชารัฐ และถอนเงินสดจากเครื่องถอนเงินอัตโนมัติได้



กลุ่มเป้าหมาย ผู้มีบัตรฯ จำนวน 14.6 ล้านคน คิดเป็นครัวเรือนประมาณ 8.2 ล้านครัวเรือน (1 ครัวเรือนใช้ได้เพียง 1 สิทธิเท่านั้น)

ระยะเวลาดำเนินการ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 ถึงเดือนกันยายน 2563 รวมเป็นระยะเวลา 1 ปี

งบประมาณ ประมาณการสำหรับค่าไฟฟ้า 1,740 ล้านบาทต่อปี (145 ล้านบาทต่อเดือน) ประมาณการสำหรับค่าน้ำประปา 30 ล้านบาทต่อปี (2.50 ล้านบาทต่อเดือน) งบประมาณรวมทั้งสิ้น 1,770 ล้านบาทต่อปี (147.50 ล้านบาทต่อเดือน) โดยจะใช้จ่ายจากเงินกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม


2. มาตรการชดเชยเงินฯ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

2.1 วัตถุประสงค์ เพื่อช่วยลดภาระภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้มีบัตรฯ สนับสนุนให้มีจำนวนผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่เพิ่มขึ้น และส่งเสริมการเข้าสู่สังคมไร้เงินสด


2.2 การดำเนินการ มีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้


1) ชดเชยเงินให้แก่ผู้มีบัตรฯ โดยใช้ข้อมูลจากจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้มีบัตรฯ ได้ชำระราคาสินค้าอุปโภคและบริโภค (ไม่รวมสินค้าและบริการที่มีภาษีสรรพสามิต) ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จากร้านธงฟ้าประชารัฐหรือร้านค้าเอกชนอื่นที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านเครื่อง EDC ที่มีการเชื่อมต่อระบบเครื่อง POS ที่เป็นระบบช่วยเก็บบันทึกการขาย รายละเอียดสินค้า คำนวณยอดขาย และออกใบกำกับภาษี ซึ่งระบบ POS สามารถแยกจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มออกจากสินค้าและบริการรวมทั้งรับและส่งข้อมูลจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มได้


2) ข้อมูลจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้มีบัตรฯ ได้ชำระราคาสินค้าอุปโภคและบริโภค (ไม่รวมสิ้นค้าและบริการที่มีภาษีสรรพสามิต) ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ร้านตามข้อ 1) จะส่งให้กรมบัญชีกลางโดยระบบจะแยกยอดภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 ออกจากราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคที่ผู้มีบัตรฯ ได้ชำระแล้ว และกรมบัญชีกลางจะนำเงินร้อยละ 5 มาจ่ายชดเชยโดยโอนเข้าช่อง e-Money ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้แก่ผู้มีบัตรฯ ในวงเงินไม่เกินจำนวน 500 บาทต่อคนต่อเดือน


2.3 กลุ่มเป้าหมาย ผู้มีบัตรฯ จำนวน 14.6 ล้านคน


2.4 ระยะเวลาดำเนินการ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 ถึงเดือนกันยายน 2563 (ระยะเวลา 11 เดือน)


2.5 งบประมาณ ประมาณการ 99.30 ล้านบาท (ประมาณ 8.16 ล้านบาทต่อเดือน) โดยจะใช้จ่ายจากเงินกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม


ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ครั้งที่ 4/2562 มีมติให้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ


ผลกระทบ

การดำเนินการขยายเวลามาตรการบรรเทาฯ และมาตรการชดเชยเงินฯ คาดว่าจะส่งผลกระทบ ดังนี้


- บรรเทาภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และช่วยลดภาระภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้มีบัตรฯ


- ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการร้านค้าจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเพิ่มขึ้น อันจะเป็นการสร้างฐานภาษีที่ยั่งยืนให้กับประเทศ


- ส่งเสริมเข้าสู่สังคมไร้เงินสด อันจะช่วยลดต้นทุนในการบริหารจัดการเงิน


1 ต.ค. 2562 เวลา 21:01 | อ่าน 747


รีวิวบ้านใหม่ ไอเดียสร้างบ้าน
 
แชร์
L
ซ่อน
แสดง
มาใหม่
รองนายกฯสมศักดิ์-กฤษฎา-อนุชา ถก คณะทำงานโครงการโคแสนล้าน ได้ข้อยุติ ธ.ก.ส.ให้อัตราดอกเบี้ย 4.5% ปลอดดอกเบี้ย 2 ปีแรก ชี้ วัวเป็นหลักประกันได้ เตรียมนำข้อสรุปชงคณะรัฐมนตรี
100 27 มี.ค. 2567
ครม.เห็นชอบ กำหนดให้ลูกจ้างมีสิทธิลาคลอดบุตรโดยได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้นจากเดิมไม่เกิน 90 วัน เป็นไม่เกิน 98 วัน
124 27 มี.ค. 2567
สมศักดิ์ เผย ยกเลิกประกาศ-คำสั่ง คสช. คืบหน้าแล้ว ล็อตแรกนำร่อง 20 ฉบับ จ่อชงคณะรัฐมนตรี เคาะ เม.ย.นี้ ย้ำ หากหน่วยงานมีความเห็นให้ยกเลิกเพิ่ม ก็จะตามไปในล็อตสอง
15 26 มี.ค. 2567
โฆษกรัฐบาลเชื่อมั่นรายได้ชาวนาปีนี้เพิ่มแน่ เป็นไปตามความตั้งใจรัฐบาลสร้างรอยยิ้มให้ชาวนา
10 26 มี.ค. 2567
ดวงกับดาวประจำวันที่ 24-30 มีนาคม 2567
332 24 มี.ค. 2567
สธ.จ่อหารือ ก.พ.เพิ่มความก้าวหน้า “เภสัชกร” เลื่อนไหลเป็น “ชำนาญการพิเศษ” ได้ทุกตำแหน่ง
657 23 มี.ค. 2567
“คารม” เผย ขั้นตอนแก้ไข หากโทรศัพท์มือถือโดนรีโมตควบคุมจากระยะไกล แนะห้ามกดลิงก์หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่ไม่ได้อยู่ใน APP Store หรือ Play Store
759 23 มี.ค. 2567
“คารม” เผย สำนักงานสลากฯ เพิ่มช่องทางจำหน่ายสลาก อำนวยความสะดวกผู้ขายและผู้ซื้อ ผ่านเว็บไซต์
472 23 มี.ค. 2567
ดวงกับดาวประจำวันที่ 17-23 มีนาคม 2567
896 17 มี.ค. 2567
โฆษกรัฐบาล เผย ผลงานนายกฯ ดันราคายางสูงขึ้นทะลุ 90 บาท สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 7 ปี
47 13 มี.ค. 2567
ดูเพิ่มเติม
 
หาเพื่อนไลน์
ซื้อขายรถบ้าน.com
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
หางานราชการ
  English
TOEIC กับ การขึ้นเงินเดือน GED VS กศน ไทย (สอบเทียบไทย) แนะนำที่เรียน IELTS ยอดนิยม ของ เด็กอินเตอร์ TOEIC Online GED CU-TEP SAT
 
บทความกลุ่มเดียวกัน