หมอจัดฟันขาดแคลน ทำคอร์ส “นอกระบบ” เฟื่องฟู

11 ต.ค. 2562 เวลา 08:15 | อ่าน 1,181
 
หมอจัดฟันขาดแคลน

การจัดฟันคือหนึ่งในบริการด้านทันตกรรมที่ได้รับความนิยม และยังเป็นธุรกิจดาวรุ่ง ที่มีความต้องการสูงในตลาด อย่างไรก็ตาม กลับพบว่าสัดส่วนของทันตแพทย์ที่จบใบปริญญาด้านการจัดฟันยังมีจำนวนไม่มากพอกับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น


ระบบการศึกษา ข้อจำกัดการผลิตทันตแพทย์จัดฟัน


ทพ.สุรัตน์ ลีนะศิริมากุล เลขาธิการทันตแพทยสภา คาดการณ์ว่ามีเคสจัดฟันใหม่เกิดขึ้นประมาณ 100,000 ราย/ปี แต่กลับมีทันตแพทย์ที่จบใบปริญญาด้านการจัดฟันในประเทศไทยเพียงประมาณ 300-400 คนเท่านั้น

สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น ทพ.สุรัตน์เห็นว่าเกิดจากข้อจำกัดของระบบการศึกษาไทย ที่ไม่เอื้อต่อการเพิ่มจำนวนบุคลากรให้ทันต่อความต้องการ

“สถาบันผลิตทันตแพทย์จัดฟันที่เป็นทางการ มีอยู่ในเฉพาะในมหาวิทยาลัยรัฐ หรือที่เรียกว่าการเรียน ‘ในระบบ’ เป็นหลักสูตรการเรียนระดับปริญญาโท สาขาคลินิคจัดฟัน

โดยหลักเกณฑ์ของกระทรวงศึกษาระบุว่าคนที่จะสอนปริญญาโทได้ ต้องจบปริญญาเอก แต่ในความเป็นจริง หมอคือวิชาชีพที่ฝึกฝนความชำนาญผ่านการปฏิบัติ จึงแทบไม่มีทันตแพทย์ที่เรียนจนจบปริญญาเอกทางคลีนิคการแพทย์

หมอจัดฟันขาดแคลน

ก่อนหน้านี้ จึงมีการเสนอไปยังสำนักงาน ก.พ. (สำนักงานข้าราชการพลเรือน) เพื่อให้คนที่มีวุฒิบัตรระดับปริญญาโท สามารถเทียบวุฒิปริญญาเอก เพื่อให้เขาสามารถสอนและคุมวิจัยได้”

คุณสมบัติที่กำหนดขึ้นมานี้ ทำให้การหาอาจารย์มาสอนหลักสูตรในระบบจึงไม่ใช่เรื่องง่าย และยังติดเงื่อนไขการควบคุมคุณภาพการเรียนการสอนของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งกำหนดให้อาจารย์ 1 คน สามารถคุมวิทยานิพนธ์นักเรียนได้เพียง 3-4 คนเท่านั้น มหาวิทยาลัยรัฐจึงไม่สามารถรับนักเรียนทันตแพทย์ระดับปริญญาโทได้ครั้งละจำนวนมาก บางมหาวิทยาลัยสามารถรับนักศึกษาได้แค่ 3-4 คนต่อปีเท่านั้น

นอกจากนี้ ทันตแพทย์เองก็ไม่มีแรงจูงใจเข้าเรียนหลักสูตรการเรียนระดับปริญญาโท สาขาคลินิคจัดฟัน เนื่องจากภาระทางการเรียนที่บังคับให้ทันตแพทย์ต้องหยุดงานหรือปิดคลินิคเป็นเวลา 3 ปี

“การเรียนการสอนปริญญาโทยังซ้ำซ้อนกับหลักสูตรในระดับปริญญาตรี เมื่อจบออกมาแล้ว มีอัตราค่าตอบแทนที่ไม่ต่างจากคนที่เรียนจบปริญญาตรี จึงไม่จูงใจให้ทันตแพทย์เข้าเรียนในระบบ” ทพ.สุรัตน์ กล่าว

การเรียนปริญญาโทมีเงื่อนไขให้ทันตแพทย์ต้องทำวิทยานิพนธ์ ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์ทันตแพทย์ที่ต้องการความรู้เพื่อเอาไปปฏิบัติ นักเรียนปริญญาโทจำนวนหนึ่งจึงเลือกรับใบประกาศคลินิค แทนการทำวิทยานิพนธ์


หมอจัดฟันขาดแคลน


คอร์สจัดฟัน “นอกระบบ“ ฉวยโอกาสเปิดทางเลือกแทนการเรียนเต็มเวลา “ในระบบ”


การเข้าถึงความรู้ในทุกวันนี้ มิได้ผูกขาดโดยมหาวิทยาลัยอีกต่อไป เมื่อมีช่องทางออนไลน์และเทคโนโลยีการสื่อสาร รวมทั้งยังมีวารสารทางการแพทย์ที่เข้าถึงได้ง่าย และแพร่กระจายบนอินเตอร์เน็ต ทันตแพทย์จึงสามารถหาความรู้ด้านการจัดฟันได้ไม่ยากนัก

และยังสามารถกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญได้โดยมิต้องผ่านหลักสูตรมหาวิทยาลัย

ทันตแพทย์จำนวนหนึ่งที่มีความรู้ด้านการจัดฟัน จึงหันมาเปิดคอร์สสอนเทคนิคจัดฟันระยะสั้น หรือที่เรียกกันว่าการเรียน ‘นอกระบบ’ โดยมีระยะเวลาการสอนตั้งแต่ 1-2 วัน ไปจนถึง 1 ปี โดยคอร์สมักเน้นทฤษฎีมากกว่าปฏิบัติ ผู้เรียนเหล่านี้สามารถเรียนไปทำงานไป และเลือกศึกษาเทคนิคจัดฟันเฉพาะตามความสนใจของผู้เรียนได้

ในทางกฎหมายนั้นถือว่าไม่ผิด เพราะพระราชบัญญัติวิชาชีพทันตกรรมไม่ได้ห้ามทันตแพทย์ที่จบระดับปริญญาตรี ให้บริการหรือเปิดคอร์สด้านการจัดฟัน แต่ทันตแพทย์ต้องคำนึงถึงจริยธรรมในการประกอบวิชาชีพ เช่น ไม่อวดอ้างความสามารถของตนเองเกินจริง หรือให้บริการโดยที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ เป็นต้น อย่างไรก็ดี การเรียนคอร์สดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง จากการสำรวจของ Hfocus พบว่าค่าใช้จ่ายในการเรียนเริ่มต้นตั้งแต่ 9,000 บาท ไปจนถึง 200,000 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนวันที่เรียนและเทคนิคการจัดฟันที่สอนในหลักสูตร


ทพ.ธานัน จารุประกร นายกสมาคมทันตแพทย์จัดฟันแห่งประเทศไทย ได้แสดงความกังวลต่อการเปิดคอร์สจัดฟันระยะสั้นว่า พบบางกรณีที่ผู้สอนในคอร์สมิใช่ทันตแพทย์จัดฟัน หรืออาจไม่ใช่ทันตแพทย์เลยแต่เป็นเจ้าของแลบหรือเซลล์จากบริษัทด้านเทคโนโลยีและอุปกรณ์จัดฟัน

“เนื่องจากทันตแพทย์จัดฟันในระบบมีจำนวนไม่มาก ความต้องการจะจัดฟันก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งการเรียนการสอนในระบบก็ผลิตได้ปีละไม่กี่คน เนื่องจากหลักสูตรเต็มเวลาใช้เวลานานหลายปี เป็นโอกาสให้มีการเปิดคอร์สจัดฟันเป็นนอกระบบสนองความต้องการของทันตแพทย์ที่อยากเรียนและอยากให้การรักษาทางทันตกรรมจัดฟัน ในทางกฎหมายเราไม่สามารถห้ามเขาเปิดคอร์สได้” ทพ.ธานัน กล่าว


“ที่สำคัญคือ ทันตแพทย์ผู้ให้การรักษาต้องคำนึงถึงจริยธรรม เขาควรทำเฉพาะในเคสที่มีความสามารถทำได้ ถ้ารู้ว่าทำไม่ได้ หรือเป็นเคสยาก ควรส่งให้ผู้เชี่ยวชาญ”


ทพ.ธานัน ให้ความเห็นว่าการเลือกเคสเป็นสิ่งที่ยาก ทันตแพทย์ต้องมีองค์ความรู้ด้านทันตกรรมจัดฟันในภาพรวมทั้งหมดจึงจะสามารถเลือกเคสได้ บางเคสอาจดูง่าย แต่ในความเป็นจริงเป็นเคสที่ยาก ทันตแพทย์ที่มีความรู้และประสบการณ์จะสามารถคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นและชี้แจงคนไข้ไว้ล่วงหน้า โดยทั่วไปทันตแพทย์จัดฟันจะส่งเตรียมช่องปากก่อนการจัดฟัน เช่น อุดฟัน ถอนฟัน หรือผ่าฟันคุดก่อน ในบางกรณีโดยเฉพาะเด็กวัยรุ่น คนไข้ต้องการใส่เหล็กจัดฟันในทันที ไม่อยากเสียเวลาเตรียมช่องปาก จึงเลี่ยงหาทันตแพทย์ท่านอื่นที่ยอมทำความต้องการ ดังนั้นจึงต้องให้ความรู้กับประชาชนด้วย


“หากทันตแพทย์มีองค์ความรู้ด้านการจัดฟันน้อย อาจเลือกเคสไม่ถูก ผู้ที่เสียหายที่สุดคือคนไข้”

“ความไม่รู้“ ของคนไข้ เปิดช่องให้ “ทำเงิน“

ในอีกด้าน ข้อจำกัดในการเข้าถึงทันตแพทย์จัดฟัน ก็นำไปสู่ช่องว่างให้ “หมอเถื่อน” ฉวยโอกาสหากำไรจาก “ความไม่รู้“ ของคนไข้ ซึ่งมีกรณีการตรวจจับอย่างต่อเนื่องในช่วงปีหลังๆ

หนึ่งในกรณีที่น่าสนใจ เกิดขึ้นในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา เมื่อตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันเข้าบุกจับผู้ให้บริการจัดฟันเถื่อนในหอพัก ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง หลังสืบทราบว่า ผู้เช่าห้องพักในหอดังกล่าวเปิดรับจัดฟันเถื่อน โดยที่ตนเองมิได้เป็นทันตแพทย์


ผู้ต้องหาให้การว่าตนได้ “ศึกษาวิธีการจัดฟันแฟชั่นจากอินเทอร์เน็ต” และหาลูกค้าผ่านเฟซบุ๊ค เน้นกลุ่มวัยรุ่นที่มีงบจำกัด นอกจากนี้ ยังพบการโพสต์ขายอุปกรณ์จัดฟันและรับจัดฟันตามหน้าโซเชียลมีเดียอย่างเปิดเผย


โจทย์การสร้างการเข้าถึงการจัดฟันที่คุณภาพ จึงอาจไม่ใช่แค่การเพิ่มจำนวนทันตแพทย์จัดฟันให้เพียงพอเท่านั้น แต่ยังต้องเพิ่มความรู้ของคนไข้ในการเลือกทันตแพทย์ สร้างกระบวนการที่ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานทางจริยธรรมของทันตแพทย์ในภาพรวม


พินิจ (นามสมมติ) เล่าให้ Hfocus ฟังว่าเมื่อเกือบหนึ่งปีก่อน ลูกสาวของตนได้เริ่มจัดฟันในคลินิคแห่งหนึ่งในกรุงเทพ แม้จะไม่พบปัญหาของคุณภาพในการจัดฟัน แต่กลับได้รับการบริการที่มีปัญหา


“หมอจัดฟันเขาเป็น "คนคิวทอง" แทบไม่มีเวลาให้คำปรึกษากับเรา เราแทบไม่มีข้อมูลกระบวนการรักษา ทุกครั้งที่ลูกสาวเข้าห้องทำฟัน หมอจะทำฟันให้ 2 เตียงพร้อมกัน หันซ้ายทีขวาที ทำเสร็จแล้วก็รีบออกจากคลีนิคไปทำฟันที่คลีนิคอื่นต่อ” พินิจเล่า

ในการรับบริการครั้งหนึ่ง หมอฟันเร่งรีบจนทำฟันไม่เรียบร้อย มีคราบน้ำยาคลุมฟันของลูกสาวพินิจ เมื่อเขาต้องการขอย้ายเคสไปคลินิคอื่น หมอฟันเรียกค่าใช้จ่าย 10,000 บาทสำหรับการส่งต่อข้อมูลคนไข้ พินิจจึงร้องเรียนหน่วยงานด้านวิชาชีพ เพราะได้รับข้อมูลจากทันตแพทย์คนอื่นว่าการย้ายเคสไม่จำเป็นต้องสียค่าใช้จ่าย

“เรารู้สึกเหมือนไม่ได้รับการดูแลแบบคนไข้ เหมือนหมอทำให้จบๆ เพื่อทำเงินจากเคสของเรา” พินิจให้ความเห็น และเล่าเพิ่มเติมว่าเขาและลูกสาวเลือกคลินิคโดยไม่ได้คำนึงถึงคุณภาพของหมอ เพียงแต่เห็นว่าคลีนิคอยู่ใกล้บ้าน มีคนใช้บริการเยอะ และมีโฆษณาหน้าร้านว่าหมอมีใบรับรอง และมีชื่อเสียงถึงขนาดที่ “ชาวต่างชาติต้องบินมาจัดฟัน”

มาตรการตึงและหย่อน ไม่แก้ปัญหา


ที่ผ่านมา สมาคมทันตแพทย์จัดฟันแห่งประเทศไทยพยายามให้ความรู้กับสาธารณะ เพื่อให้คนไข้สามารถเลือกทันตแพทย์จัดฟันที่มีคุณภาพ


“เวลาถามคนไข้ว่าเลือกคลินิคทำฟันยังไง บางคนตอบว่าร้านสวยดี ร้านใหญ่ คนเยอะดี ส่วนใหญ่คำตอบที่ได้ไม่เกี่ยวกับตัวหมอ” ทพ.ธานัน กล่าว

“คนไข้ที่รับบริการมา แล้วเกิดความเสียหาย ต้องเสียเงินซ้ำซ้อนในการแก้ไข ในภาพรวมเป็นความเสียหายทางเศรฐกิจของประเทศ ทางราชการต้องเข้ามาคุ้มครองผู้บริโภคในเรื่องนี้ ส่วนหมอต้องไม่อวดอ้าง ต้องเลือกเคสจัดฟันที่เหมาะสมกับความสามารถและความรู้ที่ตนมี”

ข้อมูลของทันตแพทยสภาระบุว่า เคสจัดฟันส่วนมากเป็นเคสระดับปานกลาง คิดเป็น 70% ของเคสจัดฟันทั้งหมด ส่วนเคสที่มีความยากในการรักษายังถือว่ามีสัดส่วนที่น้อยกว่ามาก

ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา มีกรณีร้องเรียนปัญหาจากบริการจัดฟันมาที่ทันตแพทยสภา และมีการตั้งคณะกรรมการสอบประมาณ 30 กรณี ซึ่งยังถือว่าเป็นอัตราส่วนที่น้อยมาก และสะท้อนว่าการจัดฟันในประเทศไทยยังถือว่ามีมาตราฐานและคุณภาพระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องมีส่งเสริมให้ดียิ่งขึ้น

ทพ.สุรัตน์ เชื่อว่ามาตรการที่ตึงหรือหย่อนเกินไปจะไม่แก้ปัญหา หากออกกฎเหล็กเพื่อกำกับทันตแพทย์ หรือออกรายชื่อทันตแพทย์ที่อนุญาตให้จัดฟัน ก็อาจไปลิดรอนสิทธิคนไข้โดยปิดกั้นทางเลือกในการรักษา ขณะที่มาตราการที่หย่อนยาน หรือการปล่อยให้กลไกตลาดทำงานโดยไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปกำกับดูแล ก็อาจทำให้คนไข้มีโอกาสเจอทันตแพทย์และบริการที่ไม่มีคุณภาพ

“ทันตแพทยสภาสามารถเข้าไปปิดช่องว่าง โดยอาจเข้าไปส่งเสริมและจัดรูปแบบการศึกษาที่เหมาะสม มีหน่วยงานดูแลการศึกษาต่อเนื่องหลังทันตแพทย์จบปริญญาตรี และอาจเข้าไปช่วยดูแลการเรียนการสอนนอกมหาวิทยาลัย ทำให้ความรู้กระจายได้ แต่โดยที่สุดแล้ว หมอก็ต้องมีวิจารณญาณ ห้ามขี้คุย ถ้าทำเคสไม่ได้ ต้องไม่รับ”

11 ต.ค. 2562 เวลา 08:15 | อ่าน 1,181
กำลังโหลด ...


รีวิวบ้านใหม่ ไอเดียสร้างบ้าน
 
แชร์
L
ซ่อน
แสดง
มาใหม่
ดวงกับดาวประจำวันที่ 12-18 มกราคม 2568
12 14 ม.ค. 2568
เช็กเลย.. 30 บาทรักษาทุกที่ยุคใหม่..เข้าถึงการรักษาง่ายกว่าที่คิด..ทั้งประเทศ แค่ใช้บัตรประชาชน ใบเดียวสังเกตสัญลักษณ์ 30 บาทรักษาทุกที่
45 6 ม.ค. 2568
ดวงกับดาวประจำวันที่ 5-11มกราคม 2568
55 5 ม.ค. 2568
สอบภาค ก พิเศษ 2568 สำหรับส่วนราชการต่าง ๆ ประจำปี 2568
472 3 ม.ค. 2568
ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปีภาษี 2567 ยื่นได้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 68 - 8 เม.ย. 68
201 2 ม.ค. 2568
ปีใหม่แล้ว..วัยรุ่น.. รัฐบาลชวนเปลี่ยนเงินซื้อบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเงินออม สร้างรากฐานที่มั่นคงของครอบครัวในอนาคต
35 2 ม.ค. 2568
ประกาศสำนักงาน ก.พ. เรื่อง รับสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ประจำปี 2568 (e-Exam)
285 25 ธ.ค. 2567
ช้อปดีมีคืน กรมสรรพากรเดินหน้าต่อ Easy E-Receipt 2.0 ลดหย่อนสูงสุด 50,000 บาท เฉพาะที่ได้รับ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt เท่านั้น เริ่ม 16 มกราคม 2568 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568
364 24 ธ.ค. 2567
ครม.เคาะเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรเป็น 1,000 บาท เริ่ม 1 ม.ค.2568
105 17 ธ.ค. 2567
สอบภาค ก. ปี 2568 กำลังจะมาแล้วว เตรียมตัวกันให้พร้อม
277 17 ธ.ค. 2567
ดูเพิ่มเติม
 
หาเพื่อนไลน์
ไอเดียบ้านสวย
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
หางานราชการ
  English
TOEIC กับ การขึ้นเงินเดือน GED VS กศน ไทย (สอบเทียบไทย) แนะนำที่เรียน IELTS ยอดนิยม ของ เด็กอินเตอร์ TOEIC Online GED CU-TEP SAT
 
บทความกลุ่มเดียวกัน
กำลังโหลด ...