รูปประกอบจากอินเทอร์เน็ต
เนื้อเรื่อง จากหนังสือ นิทานก่อนนอนสอนใจคุณหนู
นิทานสอนใจ เรื่อง พระราชาของหอยทาก
วันหนึ่งห่านป่าบังเอิญไปเหยียบเจ้าหอยทากที่กำลังคืบคลานไปอย่างช้าๆ
“เจ้าห่านเอ๋ยไฉนถึงดูถูกข้าเช่นนี้ ถือดีอย่างไรถึงได้กล้ามาเหยียบข้าเล่นเป็นสนุกสนาน”
เจ้าหอยทากเอะอะโวยวาย ฝ่ายห่านป่าจึงรีบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ แต่เจ้าหอยทากก็ยังวางท่ายโสโอหังไม่กลัวห่านป่าเลยแม้สักน้อยนิด
“ห่านป่าเอ๋ยเจ้าคงคิดใช่ไหมว่าทำไมข้าจึงไม่กลัวเจ้าซึ่งเป็นสัตว์ใหญ่กว่า
ข้านะไม่กลัวหรอกเพราะข้ามีพระราชาผู้ยิ่งใหญ่คอยคุ้มครองดูแลอยู่ ข้าไม่ใช่หอยทากกระจอกๆนะ”
ห่านป่าได้ฟังเช่นนั้นก็สงสัยเป็นยิ่งนักจึงเอ่ยถามว่า
“หอยทากจ๊ะ พระราชาของเจ้าน่ะเป็นใครกันหรือ แสดงว่าคงจะมีความสามารถมากจึงเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่พวกเจ้าเคารพนับถือได้อย่างอบอุ่นใจเช่นนี้”
เจ้าหอยทากยิ่งทำท่าอวดเบ่ง พลางเอ่ยขึ้นว่า
“อ๋อแน่นอนสิ เจ้าอยากจะพบกับพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ของเข้าไหมล่ะ ข้าจะพาไปดูให้เป็นบุญตา”
ว่าแล้วเจ้าหอยทากก็ค่อยๆคืบคลานทีละนิดๆ นำพาเจ้าห่านป่าไปจนถึงอาณาจักรหอยทากของมัน
แล้ว ณ ที่นั่นเจ้าห่านป่าก็ได้พบกับพระราชาของเหล่าหอยทากยืนสงบอยู่บนโขดหินก้อนใหญ่
ซึ่งพบว่าที่พื้นดินนั้นเต็มไปด้วยหอยทากป่านับหมื่นนับพันเต็มไปหมด
“อ๋อนั่นน่ะหรือพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเจ้า”เจ้าห่านป่ากระซิบถามเจ้าหอยทากที่ถูกตนเหยียบ
“ไหนลองบอกข้าเอาบุญสักหน่อยซิว่า ไฉนพวกหอยทากอย่างเจ้าจึงยกย่องผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้ให้เป็นพระราชาของพวกเจ้า"
หอยทากได้ฟังเช่นนั้นก็รีบตอบทันทีว่า
“ก็เพราะว่าพระราชาของข้านี้มีสิ่งหนึ่งซึ่งเหนือกว่าพวกหอยทากอย่างข้า อันเป็นความสามารถพิเศษซึ่งพวกข้าไม่สามารถทำได้ และสิ่งที่พวกข้ายกย่องท่านนั่นก็คือ พระราชาของข้านั้นท่านมีฝีเท้าที่รวดเร็วกว่าพวกข้าหลายเท่าเลยทีเดียวล่ะ”
ห่านป่าได้รับฟังเช่นนั้นก็พยักหน้าหงึกๆ แล้วก็รีบออกมาจากอาณาจักรของหอยทากในทันทีทันใด
หอยทากเห็นเช่นนั้นก็ภาคภูมิใจนักว่าห่านป่าเกรงกลัวพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ของตน
แต่ที่แท้แล้วห่านป่ารีบกลับมาที่หนองน้ำพลางนั่งหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจก่อนที่จะเล่าให้เพื่อนๆห่านของตนฟังว่า
“เจ้ารู้ไหมว่าพระราชาของหอยทากนั้นที่แท้ก็คือเต่านั่นเอง
พิโธ่เอ๋ยเจ้าเต่าสัตว์ที่ใครๆก็ว่าเดินช้าอืดอาดยืดยาดที่สุดนั้นที่แท้แล้วมันก็ยังสามารถไปเป็นประราชาผู้ยิ่งใหญ่ของพวกหอยทากได้
เพียงเพราะพวกหอยทากนั้นเดินช้ายิ่งกว่าเต่านั่นเอง”
ว่าแล้วพวกห่านป่าก็พากันหัวเราะอย่างสนุกสนานอยู่เป็นนาน
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนที่มีดีน้อยนั้นก็ยังสามารถเป็นใหญ่ได้ ในท่ามกลางคนที่มีดีน้อยยิ่งกว่าตน
ข้อมูลจาก
http://fable.deksiam.in.th