ธอส. สนองนโยบาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมวงเงินกว่า 100,000 ล้านบาท สร้างโอกาสทำให้คนไทยมีบ้านได้ง่ายขึ้น

24 ม.ค. 2563 เวลา 20:13 | อ่าน 620
แชร์ไปยัง
L
 
สร้างโอกาสทำให้คนไทยมีบ้าน

รมว.คลังมอบนโยบายการบริหารงาน และติดตามผลการดำเนินงานโครงการตามนโยบายรัฐของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)


วันนี้ (24 มกราคม 2563) ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียรติมอบนโยบายการบริหารงาน และติดตามผลการดำเนินงานโครงการตามนโยบายรัฐของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) โดยมีนายปริญญา พัฒนภักดี ประธานกรรมการ ธอส. นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. พร้อมด้วยคณะกรรมการธนาคารและผู้บริหาร ให้การต้อนรับและร่วมรับฟังนโยบาย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบหมายให้ ธอส. เร่งดำเนินการ 3 ภารกิจ คือ 1.การดำเนินการตามพันธกิจของ ธอส. ในการช่วยเหลือให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองให้มากยิ่งขึ้น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม 2.กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ และ 3.นำฐานข้อมูลลูกค้า และเทคโนโลยีของธนาคารมาเชื่อมต่อกับข้อมูลของรัฐบาลเพื่อพิจารณามาตรการเพิ่มเติม ซึ่ง ธอส. ได้เตรียมวงเงินรวมกว่า 100,000 ล้านบาท จัดทำ 4 ผลิตภัณฑ์พิเศษ ทั้งสินเชื่ออัตราดอกเบี้ย 0% หลังผ่อนชำระตามเงื่อนไข นำเงินจากการจำหน่ายสลากออมทรัพย์ รุ่นที่ 3 หน่วยละ 50,000 บาท มาจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่เป็นข้าราชการและบุคลากรภาครัฐที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้


ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยม มอบนโยบายการบริหารงาน และติดตามผลการดำเนินงานโครงการตามนโยบายรัฐของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ว่า ได้มอบหมายให้ ธอส. เร่งดำเนินการ 3 ภารกิจ คือ 1.การดำเนินการพันธกิจของ ธอส. ในการช่วยเหลือให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เนื่องจากในปัจจุบันยังคงมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง 2.ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่มีความสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพราะมีภาคธุรกิจ และการจ้างงานที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก ซึ่ง ธอส. ถือเป็นสถาบันการเงินที่สามารถมีบทบาทสำคัญได้มากยิ่งขึ้นในการทำหน้าที่ชี้นำภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจด้วยการจัดทำมาตรการใหม่มารองรับให้ประชาชนมีบ้านได้มากขึ้น พร้อมกับติดตามขยายผลมาตรการอื่น ๆ ที่เคยจัดทำก่อนหน้านี้ และ 3.การนำฐานข้อมูลลูกค้ากว่า 3.7 ล้านราย และเทคโนโลยีของธนาคารมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ลูกค้าประชาชนในมิติอื่น ๆ นอกเหนือจากด้านที่อยู่อาศัย โดยนำมาเชื่อมต่อกับข้อมูลของรัฐบาลที่รวบรวมได้จากโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือมาตรการ"ชิมช้อปใช้ เพื่อเป็น Big data ในการพิจารณาจัดทำมาตรการใหม่ ๆ เพื่อประชาชนต่อไป


สร้างโอกาสทำให้คนไทยมีบ้าน

ด้านนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” พร้อมปฏิบัติตามนโยบายของ ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างโอกาสให้ประชาชนทุกระดับรายได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมกับแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย จึงได้เตรียมวงเงินรวมกว่า 100,000 ล้านบาท จัดทำ 4 ผลิตภัณฑ์ โดยมีรายละเอียด ดังนี้


1.โครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานรัก ปี 2563 (กรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาท) อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 3.25% ต่อปี ปีที่ 2 อัตราดอกเบี้ย 4 % ต่อปี ปีที่ 3 อัตราดอกเบี้ย 5 % ต่อปี ส่วนเดือนที่ 37-42 อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี เดือนที่ 43 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการ อัตราดอกเบี้ย MRR-1% ต่อปี กรณีลูกค้ารายย่อย อัตราดอกเบี้ย MRR-0.75% ต่อปี และกรณีซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย ปีที่ 1 จนถึงตลอดอายุสัญญา อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส. เท่ากับ 6.50% ต่อปี) ให้กู้สูงสุดรายละไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อหลักประกัน และผู้กู้ต้องมีรายได้รวมไม่เกิน 35,000 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 37-42 จะเป็น 0% ต่อปี ต่อเมื่อทำนิติกรรมพร้อมสมัครใช้บริการ GHB ALL และผ่อนชำระเงินงวดผ่าน GHB ALL เท่านั้น ยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมได้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2563

2.โครงการสินเชื่อบ้าน Dream Homes by GHB (กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท) อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 เท่ากับ 3.25% ต่อปี ปีที่ 4-5 อัตราดอกเบี้ย MRR-2% ต่อปี(ปัจจุบันเท่ากับ 4.50% ต่อปี) เดือนที่ 61-66 อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี เดือนที่ 67 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการ อัตราดอกเบี้ย MRR-1% ต่อปี กรณีลูกค้ารายย่อยที่หน่วยงานทำ MOU ภายใต้โครงการ Corporate Synergy กับธนาคาร อัตราดอกเบี้ย MRR-0.75% ต่อปี กรณีลูกค้ารายย่อย อัตราดอกเบี้ย MRR-0.50% ต่อปี ให้กู้สำหรับผู้กู้ที่ปัจจุบันไม่มีการผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับ ธอส. หรือสถาบันการเงินอื่น ฟรี!! ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ ยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมได้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2563

3.ผลิตภัณฑ์สลากออมทรัพย์ ธอส. รุ่นที่ 3 ชุดพิมานมาศ (กรอบวงเงินโครงการ 50,000 ล้านบาท) โดยสลากจะจำหน่ายหน่วยละ 50,000 บาท จำนวนสลากรวมทั้งโครงการ 1 ล้านหน่วย ออกรางวัลทุกเดือน จำนวนรางวัลรวมทั้งโครงการเดือนละ 100 รางวัล รางวัลละ 50,000 บาท และมีรางวัลพิเศษทุกไตรมาส มูลค่ารวมไตรมาสละ 10 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มเปิดจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 โดยธนาคารจะนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายสลากออมทรัพย์ รุ่นที่ 3 ไปจัดทำเป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำวงเงิน 50,000 ล้านบาท สำหรับปล่อยกู้ให้แก่ประชาชนทุกระดับรายได้โดยจะพิจารณาวงเงินการให้สินเชื่อตามความสามารถในการชำระหนี้โดยไม่มีเพดานวงเงินให้สินเชื่อต่อราย

4.มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่เป็นข้าราชการและบุคลากรภาครัฐที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ ธอส. ร่วมแก้ไขปัญหาหนี้สินให้แก่ข้าราชการ จึงได้จัดทำมาตรการช่วยเหลือสำหรับผู้กู้หรือผู้กู้ร่วมที่เป็นข้าราชการหรือบุคลากรภาครัฐ(ข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจ, พนักงานองค์กรอิสระ และพนักงานองค์กรมหาชน) ที่อยู่ระหว่างการผ่อนชำระตามเงื่อนไขการประนอมหนี้หรือปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคาร หรือมีวันค้างชำระตั้งแต่ 61 วันขึ้นไป ซึ่งปัจจุบันมีอยู่จำนวนประมาณ 10,000 ราย ยอดเงินต้นคงเหลือ 8,300 ล้านบาท ให้ใช้อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี ในระหว่างการประนอมหนี้หรือปรับโครงสร้างหนี้ระยะเวลา 6 เดือน ผ่อนชำระเงินงวดร้อยละ 50 ของเงินงวดตามสัญญาเดิม หรือเงินงวดตามข้อตกลงประนอมหนี้หรือปรับโครงสร้างหนี้เดิม โดยธนาคารจะติดตามดูผลการชำระเงิน 3 เดือน ก่อนพิจารณาจัดชั้นหนี้เป็นปกติ ส่วนเงินงวดที่ชำระตามมาตรการนี้จะนำไปตัดเงินต้นทั้งหมด

ขณะเดียวกัน ธอส. ยังได้รายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ประกอบด้วย “มาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารอาคารสงเคราะห์” อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1-3 คงที่ 2.50% ต่อปี ให้กู้สูงสุดรายละไม่เกิน 3 ล้านบาท ณ วันที่ 23 มกราคม 2563 มีผู้ยื่นกู้แล้วจำนวน 11,425 บัญชี วงเงินขอกู้ 21,947 ล้านบาท และอนุมัติแล้ว 9,460 บัญชี วงเงินอนุมัติ 17,605 ล้านบาท “โครงการบ้านล้านหลัง” อัตราดอกเบี้ย คงที่ 3% นานสูงสุด 5 ปีแรก ให้กู้สูงสุดรายละไม่เกิน 1 ล้านบาท ณ วันที่ 23 มกราคม 2563 มีผู้ยื่นกู้แล้วจำนวน 22,442 บัญชี วงเงินขอกู้ 16,506 ล้านบาท และอนุมัติแล้ว 21,227 บัญชี วงเงินอนุมัติ 15,086 ล้านบาท “โครงการบ้านดีมีดาวน์” ภาครัฐสนับสนุนเงินเพื่อลดภาระการผ่อนดาวน์ จำนวน 50,000 บาทต่อราย แก่ประชาชน 100,000 รายแรก ที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขของโครงการโดยอยู่ในระบบฐานภาษี มีรายได้ปี 2561 ไม่เกิน 1,200,000 บาทต่อปี ณ วันที่ 22 มกราคม 2563 มีจำนวนผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น 90,507 ราย เป็นผู้ที่ผ่านคุณสมบัติตามเกณฑ์การลงทะเบียน 50,506 ราย และมีจำนวนผู้ที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย จดจำนอง และ ธอส.ได้โอนเงินที่รัฐสนับสนุนเพื่อลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัยแล้วจำนวน 5,659 ราย ซึ่งในปี 2563 ธนาคารยังพร้อมเดินหน้าให้การสนับสนุนนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาล เพื่อสร้างโอกาสในการทำให้คนไทยมีบ้านต่อไป โดยมีเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ 209,000 ล้านบาท ขณะที่ ณ สิ้นปี 2562 ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ทั้งสิ้น 215,301 ล้านบาท ทำให้มียอดสินเชื่อคงค้างรวม 1,209,264 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.37% จากสิ้นปี 2561 และมีกำไรสุทธิจำนวน 13,352 ล้านบาท

24 ม.ค. 2563 เวลา 20:13 | อ่าน 620


รีวิวบ้านใหม่ ไอเดียสร้างบ้าน
 
แชร์
L
ซ่อน
แสดง
มาใหม่
นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME
136 25 เม.ย. 2567
รัฐบาลเชิญชวน ผู้กู้ยืม กยศ. ถูกดำเนินคดีในปี 2557 ที่ยังมีภาระหนี้ค้าง เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อขยายระยะเวลาชำระหนี้ ปลดภาระผู้ค้ำประกัน
222 25 เม.ย. 2567
การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ทั่วประเทศ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ พิจารณาอย่างเหมาะสมและรอบคอบ เผย 14 พ.ค. นี้ คกก. ค่าจ้างฯ เตรียมประชุมพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ
254 25 เม.ย. 2567
เพิ่มเบี้ยหวัดบำนาญ 11,000 บาท พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2567
361 22 เม.ย. 2567
ดวงกับดาวประจำวันที่ 21-27 เมษายน 2567
370 21 เม.ย. 2567
เงื่อนไข คุณสมบัติ ครอบครัวอุปถัมภ์ผู้สูงอายุ มีสิทธิได้รับเงินเดือนละ 3,000 บาท เริ่มยื่นเดือนพฤษภาคมนี้ เป็นต้นไป
697 19 เม.ย. 2567
ก.พ. เพิ่มอัตราเงินข้าราชการบรรจุใหม่ และข้าราชการเก่า ตรวจสอบคุณสมบัติได้ที่นี่
1,378 15 เม.ย. 2567
รถไม่ค่อยวิ่ง ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตอนไหนดี ?
74 13 เม.ย. 2567
นายกฯ ย้ำโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โปร่งใส ตรวจสอบได้ พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายรายได้ถึงพี่น้องประชาชนระดับท้องถิ่นและชุมชน
93 12 เม.ย. 2567
สุริยะ รับข้อสั่งการนายกฯ อำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนช่วงสงกรานต์ 2567 “สะดวก-รวดเร็ว-ปลอดภัย เผยการเดินทางวันแรก (11 เม.ย. 2567) พบการเดินทางคึกคัก อุบัติเหตุลดลง
759 12 เม.ย. 2567
ดูเพิ่มเติม
 
หาเพื่อนไลน์
ซื้อขายรถบ้าน.com
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
หางานราชการ
  English
TOEIC กับ การขึ้นเงินเดือน GED VS กศน ไทย (สอบเทียบไทย) แนะนำที่เรียน IELTS ยอดนิยม ของ เด็กอินเตอร์ TOEIC Online GED CU-TEP SAT
 
บทความกลุ่มเดียวกัน