หลายคนรู้จัก “เกียร์” ว่าเป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่เปลี่ยนอัตราส่วนการทดรอบระหว่างเครื่องยนต์กับล้อ ควบคุมให้รถสามารถเคลื่อนที่ได้ ซึ่งในปัจจุบันเกียร์มี 2 แบบ คือ เกียร์ธรรมดา และ เกียร์อัตโนมัติ โดยลักษณะการใช้งานก็จะแต่งต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่เราควรคำนึงคือการถนอมเกียร์ทั้ง 2 ประเภทให้ใช้ได้นาน “วิธีถนอมเกียร์ให้ใช้งานได้นาน” ชุดเกียร์ไม่ได้ทำหน้าที่แค่รับแรงจากเครื่องยนต์แล้วส่งไปที่ล้อเท่านั้น เพราะเกียร์เป็นอุปกรณ์จำเป็นที่ช่วยให้เราขับเคลื่อนรถ ถ้าไม่มีชุดเกียร์จะส่งผลให้เครื่องยนต์เผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์และสิ้นเปลืองน้ำมัน รถทุกคันล้วนมีหน้าปัดบอกความเร็วรอบเครื่อง การสร้างความคุ้นเคยกับหน้าปัดรอบเครื่องจะช่วยให้เราเข้าใจชุดเกียร์ได้มากขึ้น
การเปลี่ยนเกียร์สามารถสังเกตง่ายๆ เมื่อเรากดคันเร่งเพิ่มความเร็วรถจนถึงจุดหนึ่งที่รถจะทำการเปลี่ยนเกียร์ รอบเครื่องก็จะขึ้นสูงชั่วขณะ จากนั้นก็จะลดต่ำลง ความเร็วรถก็จะเพิ่มขึ้น ถ้าเรากดคันเร่งหรือเมื่อเซ็นเซอร์ส่งข้อมูลว่ารถกำลังเร่ง แต่ ECU กลับยังไม่สั่งการให้เปลี่ยนเกียร์ก็จะส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานรอบสูงกินน้ำมันมากขึ้น
การคิกดาวน์ (Kickdown) ก็คือการเหยียบแป้นคันเร่งให้ลึกกว่าปกติเพื่อเพิ่มความเร็วอย่างเร่งด่วน ซึ่งหากทำการคิกดาวน์บ่อยๆ ชุดเกียร์ได้รับแรงบิดที่เพิ่มขึ้นกะทันหันเกินความจำเป็น จะทำให้ชุดเกียร์เกิดความเสียหาย ชำรุดเร็วกว่าที่เวลากำหนด การขับขี่ที่ดีควรค่อยๆ เพิ่มความเร็วจะดีที่สุดครับ
คนส่วนใหญ่มักจะใส่เกียร์ P เวลาจอดรถบนทางลาดชัน ป้องกันไม่ให้รถไหล แต่วิธีที่ดีเวลาจอดรถบนทางลาดชันควรใช้เบรกมือควบคู่ด้วย ทั้งนี้ก็เพราะหลีกเลี่ยงไม่ให้สลักเกียร์ต้องรับน้ำหนักรถมากเกินไปนั่นเอง
ในขณะที่รถวิ่งอยู่ ไม่ควรปล่อยเกียร์ว่างแล้วปล่อยให้รถไหลเด็ดขาด ทั้งนี้เพราะถ้าเข้าเกียร์ N น้ำมันหล่อลื่นในห้องเกียร์จะหยุดไหลเวียน พร้อมกันนั้นเกียร์ก็กำลังหมุนอยู่ ซึ่งจะทำให้เกิดความร้อนสูงกว่าปกติ ทำบ่อยๆ จะส่งผลให้น้ำมันเกียร์เสื่อม ประสิทธิภาพการหล่อลื่นต่ำลง จนเกียร์เกิดความเสียหายได้นั่นเอง
โดยทั่วไปตำแหน่งเกียร์ออโต้ผู้ขับขี่สามารถปรับอัตราทดลองเองได้ ทั้ง+, – หรือตำแหน่ง 3, 2, L (แตกต่างกันไปแล้วแต่รถแต่ละรุ่น) อย่างไรก็ตามตำแหน่งเกียร์ D สามารถครบคลุมในชีวิตประจำวัน จึง ไม่ควรปรับเกียร์เป็นตำแหน่งอื่นบ่อยๆโดยไม่จำเป็น
การเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะเวลาที่กำหนดตามคู่มือ จะช่วยหล่อลื่นและปกป้องถนอมชุดเกียร์ แต่ถ้ารถรุ่นไหนไม่ได้ระบุว่าให้เปลี่ยนหรือระบุว่าไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตลอดอายุการใช้งาน สามารถตั้งระยะเวลาเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เองได้ ซึ่งรถแต่ละรุ่นจะอยู่ที่ประมาณ 40,000 – 60,000 กิโลเมตร ทั้งนี้เพราะสภาพอากาศร้อนในบ้านเราส่งผลทำให้น้ำมันเกียร์เสื่อมเร็วกว่าปกตินั่นเอง