รถยนต์คันแรกของโลก Benz Patent Motor Wagen : รถคันแรกของโลกมี 3 ล้อ!!

4 ธ.ค. 2555 เวลา 12:07 | อ่าน 5,147
 
รถยนต์คันแรกของโลก Benz Patent Motor Wagen : รถคันแรกของโลกมี 3 ล้อ!!
Benz นำเครื่องยนต์หนึ่งแรงม้ามาใส่ในจักรยาน?เป็นหัวข้อข่าวในหนังสือพิมพ์ Neue Badische Landeszeitung(หนังสือพิมพ์ที่จำหน่ายในแคว้น Baden ทางตอนใต้ของเยอรมนี)ฉบับวันที่ 4 มิถุนายน ค.ศ. 1886 บทความดังกล่าวเขียนไว้ว่า

มันได้เรียกความ สนใจอย่างมากจากเพื่อน ๆ ที่ยังคงใช้รถจักรยานสองล้ออยู่ ยิ่งได้รู้ว่าสิ่งที่กำลังจะเป็นก้าวย่างที่ยิ่งใหญ่นี้เป็นสิ่งประดิษฐ์ ใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นโดย Benz & Cie. บริษัทในท้องถิ่นที่เป็นผู้ผลิตจักรยานแบบสามล้อ ซึ่งต่อมาได้พัฒนาให้เป็นบริษัทที่ทำการผลิตเครื่องยนต์เบนซิน เครื่องยนต์นี้มีกระบอกสูบเพียง 9 เซนติเมตรและถูกติดตั้งไว้บนขดสปริงเหนือเพลาระหว่างสองล้อหลัง ผลิตกำลังได้เกือบ ๆ จะหนึ่งแรงม้า รอบเครื่องยนต์หมุน 300 รอบภายในหนึ่งนาที รูปร่างของรถคันนี้ก็ไม่ได้แตกต่างหรือใหญ่โตกว่ารถจักรยานแบบสามล้อทั่วไป อย่างไรก็ตามจากรูปลักษณ์ก็ดูคล่องแคล่วไม่ใช้น้อย และสร้างความประทับใจเมื่อแรกเห็นเป็นอย่างมาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะได้รับความนิยมอย่างมากต่อไปรวมไปถึงการปรับปรุงให้ ใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยมและจะเป็นประโยชน์ในการใช้งานสำหรับแพทย์, นักเดินทาง, นักกีฬาและอื่น ๆ อีกมากมายในอนาคตอันใกล้


โดยตัวของผู้เขียนบทความกล่าวดังกล่าวน่าจะเป็นพวกผู้ชื่นชอบกีฬาที่ต้องใช้ ยาน พาหนะเป็นส่วนประกอบ เพราะกีฬาที่อาศัยการหมุนของล้อกลม ๆ เป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงเวลานั้น อย่างไรก็ตามเขาก็เป็นบุคคลที่มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลไม่ใช่น้อยเพระเขามี ความเชื่อมั่นและมีโอกาสสัมผัสกับความพิเศษของยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์ น้ำหนักเบาและเป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ขณะนั้น ในวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ.1886 นักข่าวคนเดียวกันได้รายงานไว้ว่า?เครื่องยนต์เบนซินที่ออกแบบและผลิตโดย Rheinische Gasmotorenfabril Benz & Cie. ซึ่งเป็นหัวข้อข่าวไปเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนถูกทดสอบเช้าวันนี้ที่ Ringstrbe และผลการทดสอบเป็นที่น่าพึงพอใจอย่างมาก

เบนซ์มีงานอดิเรกที่ชื่นชอบจักรยานมาก ดังนั้นงานอดิเรกชิ้นนี้จึงได้นำพาเขาไปรู้จักกับเจ้าของร้านซ่อมจักรยานใน เมืองมานน์ไฮม์ คือ Max Rose และ Friedrich Wilhelm Eßlinger ซึ่งในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 1883 คาร์ล เบนซ์ ร่วมกับหุ้นส่วนอีก 2 คน คือ Max Rose และ Friedrich Wilhelm Eßlinger ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัทใหม่ที่ผลิตเครื่องจักรทางอุตสาหกรรมที่ชื่อ Benz & Company Rheinische Gasmotoren-Fabrik ขึ้นที่เมืองมานน์ไฮม์ ซึ่งมักเป็นที่รู้จักกันสั้นๆ ว่า Benz & Cie และบริษัทนี้ก็ได้เติบโตอย่างรวดเร็ว มีพนักงานทั้งสิ้น 25 คน และต่อมาไม่นานก็ผลิตเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน

การตั้งบริษัทใหม่เปิดโอกาสให้เบนซ์ได้สานต่อความฝันที่จะสร้างยานพาหนะที่สามารถเคลื่อนที่ไปได้โดยปราศจากม้าลาก และในช่วงเวลาเดียวกันกับที่เดมเลอร์สร้างเครื่องยนต์ที่ไปใช้กับทั้งจักรยานยนต์และรถยนต์ที่มี 4 ล้อเป็นครั้งแรก คาร์ล เบนซ์ ก็กำลังอยู่ในช่วงเวลาของการพัฒนารถยนต์ 3 ล้อ ซึ่งต่อมาได้รับการรับรองว่าเป็น "รถยนต์" ที่ แท้จริงคันแรกปรากฏต่อสาธารณชน จากประสบการณ์และความชื่นชอบในจักรยาน เขาใช้เทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันกับการสร้างจักรยานเพื่อสร้างรถยนต์ที่มี เครื่องยนต์ 4 จังหวะที่ออกแบบให้อยู่ระหว่างล้อหลังทั้งสองล้อ โดยเขาได้ทดลองใช้กับรถสามล้อนับเป็นรถยนตร์ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายในคันแรกของโลก รถ 3 ล้อ ของเบนซ์ เป็นรถยนตร์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงเพื่อขับเคลื่อนเครื่องยนต์ เขาสร้างเจ้าสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้เสร็จสิ้นในปี ค.ศ. 1885 และเรียกมันว่า “Benz Patent Motorwagen” ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า “รถยนตร์” อย่างแท้จริง ดังนั้น จึงมีหลายคนถือว่า คาร์ล เบนซ์ เป็นผู้คิดค้นรถยนตร์ได้เป็นผลสำเร็จ และรถยนตร์คันแรกของโลกซึ่งมี 3 ล้อ

Motorwagen ในปี ค.ศ. 1885 ดูจะสร้างความตื่นเต้นให้กับสาธารณชน การทดสอบรถนั้นดึงดูดผู้เห็นเหตุการณ์ให้เข้ามารุมหัวเราะและล้อเลียนรถ ยนตร์ของเขา เมื่อมันชนโครมกับกำแพง เพราะการทดลองใช้ช่วงแรกๆ นั้นยังมีปัญหาเรื่องการควบคุมรถ และเจ้า Motorwagen ได้รับการจดสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 1886 และได้จดทะเบียนสิทธิบัตรหมายเลข DRP no. 37435 ที่ออกให้โดยสำนักงาน Imperial Patent Office สิทธิบัตรฉบับนี้ก็คือ “สูติบัตร” ของรถที่คาร์ล เบนซ์ เป็นผู้ให้กำเนิดนั่นเอง

เบนซ์ได้พัฒนายนตรกรรมคันแรกของโลกที่ผลิตภายใต้แนวคิดแบบองค์รวม โดยมีการนำตัวยานพาหนะ และ เครื่องยนต์มาผสมผสานเข้าไว้ด้วยกันเพื่อสร้างระบบเครื่องจักรกลอันมี ประสิทธิภาพที่น่าทึ่งขึ้นเป็นครั้งแรก น้ำหนักโดยรวมของรถอยู่ที่ต่ำกว่า 300 กิโลกรัม เฉพาะเครื่องยนต์อย่างเดียวก็หนักเกินกว่า 100 กิโลกรัม จึงทำให้ยนตรกรรมจากเบนซ์คันนี้มีน้ำหนักเบาเป็นอย่างมาก ระบบขับเคลื่อนก็มีความทันสมัยอย่างยิ่งในขณะนั้น ด้วยห้องเผาไหม้เชื้อเพลิงภายในของเครื่องยนต์เป็นแบบสูบเดียว 4 จังหวะที่ติดตั้งในแนวนอนช่วยสร้างศักยภาพในการระบายความร้อนตามแบบ Thermosyphon และระบบการหล่อลื่นในแบบ drip lubrication

โครงสร้างของตัวถังทำจากเหล็กที่ตัดเชื่อมให้โค้งงอเข้ารูป และด้วยเหตุที่เป็นรถยนตร์ที่ขับเคลื่อนล้อหลังในกรณีเช่นที่ต้องเข็นรถจากทางด้านหลัง เบนซ์เกรงว่าจะเกิดปัญหาให้กับระบบพวงมาลัยซึ่งมีระบบที่แตกต่างไปจากยานพาหนะที่ใช้กันอยู่ในขณะนั้น เขาจึงตัดสินใจให้รถยนตร์คันแรกของมีเพียงสามล้อเท่านั้น โดยที่ล้อหน้าติดตั้งในลักษณะเหมือนกับล้อรถจักรยานและควบคุมการเคลื่อนที่ด้วยแรงดึงจากเฟืองซึ่งเชื่อมต่อกับข้อเหวี่ยง

เบนซ์ได้ผลิตล้อแบบซี่ลวดและยางตันด้วยตัวของเขาเองมีเพียงขอบล้อเท่านั้นที่เป็นแบบ outsourced ล้อหน้าทำงานด้วยลูกปืนล้อส่วนล้อหลังมีปลอกทำด้วยดีบุกหุ้มป้องกันการเสียดสี ขับ เคลื่อนด้วยโซ่ที่อยู่ด้านซ้ายและขวาขับเคลื่อนเพลาถ่วงดุลน้ำหนักเบาที่ล้อ หลัง ซึ่งจะส่งผลต่อตัวรถเช่นเดียวกับเพลาหลังแบบแข็งและสปริงรูปไข่

รถยนต์คันแรกของโลกมีเพียงเกียร์เดียวและไม่มีเกียร์ถอยหลัง ความเร็วที่ใช้ในการขับเคลื่อนได้มาจากเพลาถ่วงดุลที่ประกอบด้วยจานขับตัวหลักและเฟืองขับพร้อมทั้งตัวควบคุมรอบเดินเบา ลิ้นเปิดปิดควบคุมการทำงานระหว่างเครื่องยนต์กับเพลาถ่วงดุลทำหน้าที่เช่นเดียวกับคลัทช์ การสตาร์ทเครื่องยนต์ทำโดยหมุนสายพานที่อยู่ระหว่างจานที่ควบคุมรอบเดินเบากับจานขับหลัก ความเร็วที่ใช้ขึ้นอยู่กับการควบคุมของปลอกลูกเลื่อนที่อยู่ใต้เบาะที่นั่งคนขับ

และในปีถัดมาเบนซ์ก็สร้าง Motorwagen Model 2 ที่ได้รับการปรับปรุงหลายอย่าง และในปี ค.ศ. 1887 Model 3 ที่ สมบูรณ์แบบขั้นสุดท้ายที่มีล้อทำจากไม้ก็เผยแพร่สู่สาธารณชน เบนซ์มีความภูมิใจกับรถรุ่นที่ 3 มาก ถึงกับโฆษณาถึงรุ่นนี้ว่าเป็นรถยนตร์ที่นั่งสะดวกสบาย และเป็นรถที่มีสมรรถนะที่สามารถขึ้นเขาได้ รถถูกออกแบบให้มีทรงกระทัดรัดแบบ 3 ล้อที่เบนซ์ออกแบบมาเพื่อความประหยัด โดยละเว้นสิ่งตกแต่งที่สวยงาม สมัยก่อนรถยนต์ยุคแรกๆ จะแสดงให้เห็นชิ้นส่วนและการทำงานภายใน แต่ต่อมาเบนซ์ได้ออกแบบตัวถังให้ปกปิดส่วนต่างๆ ให้มิดชิดขึ้น มีล้อ 4 ล้อ ที่ถูกออกแบบมาเป็นแนวตั้งตรง เพราะผู้สร้างคิดว่าแนวตรงนี้ จะทำให้รถเลี้ยวด้วยความมั่นใจและปลอดภัยในการเกาะถนนและการทรงตัว


รถคันนี้โชว์อยู่ในพิพิธภัณฑ์ เมอร์เซเดส- เบนซ์ ณ เมืองสตุ๊ตต์การ์ตขณะนี้นั้นเป็นแบบจำลองจากของจริงที่ คาร์ล เบนซ์ผลิต เพราะเขาได้อุทิศให้กับพิพิธภัณฑ์แห่งชาติในเมืองมิวนิค เมื่อปี 1906


ปีที่ผลิต 1886
กำลังเครื่องยนต์ 0.55 กิโลวัตต์ (0.75 แรงม้า) ที่ 400 รอบต่อนาที
ความจุกระบอกสูบ 954 cc
ช่วงชักกระบอกสูบ 91.4 x 150 มิลลิเมตร
ความเร็วสูงสุด 15 กิโลเมตร/ชั่วโมง
น้ำหนัก 265 กิโลกรัม

ขอขอบคุณ http://www.thainn.com/blog.php?m=jeab101&d=8414 http://www.vikrom.net
ข้อมูลจาก http://historyoffirst.blogspot.com


4 ธ.ค. 2555 เวลา 12:07 | อ่าน 5,147
กำลังโหลด ...


รีวิวบ้านใหม่ ไอเดียสร้างบ้าน
 
แชร์
L
ซ่อน
แสดง
มาใหม่
ครม.เคาะเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรเป็น 1,000 บาท เริ่ม 1 ม.ค.2568
23 17 ธ.ค. 2567
สอบภาค ก. ปี 2568 กำลังจะมาแล้วว เตรียมตัวกันให้พร้อม
90 17 ธ.ค. 2567
ธ.ก.ส. ออกมาตรการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวใต้ เลื่อนเวลาชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 1 ปี และไม่คิดดอกเบี้ยปรับเกษตรกรแจ้งความประสงค์ได้ที่ ธ.ก.ส ในพื้นที่ ถึง 31 มกราคม 2568
663 5 ธ.ค. 2567
แจ้งข่าวดีชาวไร่อ้อย เริ่ม 6 ธ.ค. นี้ ภาคตะวันออกและภาคอีสานเปิดหีบอ้อยน้ำตาลทรายที่แรก ก่อนทยอยเปิดภาคเหนือภาคกลาง คาดจำนวนอ้อยเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13.40%
630 5 ธ.ค. 2567
ทุนสำหรับบุคคลทั่วไประดับปริญญา ประจำปี 2568 (ทุน ก.พ.)
132 2 ธ.ค. 2567
ดวงกับดาวประจำวันที่ 1-7 ธันวาคม
73 1 ธ.ค. 2567
การปรับอัตราค่าตอบแทนแรกบรรจุและการปรับค่าตอบแทนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบของพนักงานราชการ (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566)
183 1 ธ.ค. 2567
รัฐบาลเดินหน้าสร้างโอกาสทำงานวัยเกษียณ จับมือ 16 ธุรกิจเอกชน เปิดตำแหน่งงานกว่า 4 พันอัตราทั่วประเทศ สมัครได้ที่เว็บไซต์
656 28 พ.ย. 2567
รองโฆษกรัฐบาล เผยค่าไฟ 4.15 บาท ต่ำกว่าข้อเสนอของ กกพ. ถึง 1.34 บาท ย้ำ “พีระพันธุ์” ต่อรองเต็มที่ เพื่อเป็นของขวัญจากรัฐบาลและ ก.พลังงาน
850 28 พ.ย. 2567
ระเบียบคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ว่าด้วยเงินค่าตอบแทนพิเศษของลูกจ้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2557
120 25 พ.ย. 2567
ดูเพิ่มเติม
 
หาเพื่อนไลน์
ไอเดียบ้านสวย
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
หางานราชการ
  English
TOEIC กับ การขึ้นเงินเดือน GED VS กศน ไทย (สอบเทียบไทย) แนะนำที่เรียน IELTS ยอดนิยม ของ เด็กอินเตอร์ TOEIC Online GED CU-TEP SAT
 
บทความกลุ่มเดียวกัน
กำลังโหลด ...