กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เยี่ยมชมความพร้อมของโรงแรมมิราเคิล คุมเข้มการปฏิบัติตาม มาตรการป้องกันโรคโควิด 19 หลังการผ่อนปรนระยะที่ 2 สร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการ
วันนี้ (26 พฤษภาคม 2563) แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ว่า จากการที่รัฐบาลได้มีการ ผ่อนปรน ระยะที่ 2 ในสถานประกอบการประเภทห้องประชุมในโรงแรมหรือศูนย์ประชุม นั้น กรมอนามัย จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการปฏิบัติตามแนวทางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด โดยให้ยึดปฏิบัติตามมาตรการหลักของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ดังนี้
แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวต่อว่า ข้อถัดมา คือ 7) กำหนดจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมในแต่ละสถานที่ ตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป ให้เป็นไปตาม ผลการพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ซึ่งต้องได้รับการจัดระเบียบการเข้าใช้บริการ ให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคและคำแนะนำของทางราชการ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมไม่เกิน 200 คน และ 8) งดให้มีการจัดงานเลี้ยงร่วมกับการจัดประชุม อบรม สัมมนา รวมถึงการงดการพูดคุยเสียงดัง ในที่ประชุม และจากการเยี่ยมชมโรงแรมมิราเคิล ในครั้งนี้ ถือว่ามีความพร้อมในการให้บริการที่คำนึงถึงความปลอดภัยและสุขอนามัยของผู้รับบริการ โดยได้กำหนดจุดคัดกรองผู้ใช้บริการ เพื่อควบคุมจำนวนคนไม่ให้แออัด และขอให้ผู้ใช้บริการ CHECK-IN และ CHECK-OUT ผ่านแพลตฟอร์ม "ไทยชนะ" ตามมาตรการของภาครัฐ เพื่อเป็นข้อมูลในการคัดกรองและเพื่อความปลอดภัย ทั้งในส่วนของบริเวณทางเข้าโรงแรม ห้องประชุม และห้องอาหารต่างๆ รวมทั้งกำกับดูแลพนักงานบริการและผู้ใช้บริการให้สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา นอกจากนี้ ภายในห้องประชุมได้จัดแบบเว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะ และระหว่างที่นั่งอย่างน้อย 1-2 เมตร จัดอาหารว่างและเครื่องดื่มเป็นชุดส่วนตัว และทำความสะอาดห้องประชุมก่อนและหลังใช้งานทุกครั้ง โดยเน้นจุดสัมผัสร่วม เช่น ไมโครโฟน ที่จับประตู ลิฟต์ บันไดเลื่อน และห้องน้ำ อีกทั้งได้จัดบริการแอลกอฮอล์เจลหรือสบู่ล้างมือตามจุดต่างๆ อย่างทั่วถึงด้วย
“ทั้งนี้ หลักสำคัญที่ต้องเน้นย้ำทุกโรงแรมให้ยึดถือปฏิบัติคือ การดูแลทำความสะอาดสถานที่ให้ถูกสุขลักษณะ และพนักงานให้บริการต้องมีสุขอนามัยที่ดี โดยเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อบริเวณพื้นผิวที่มีการจับหรือสัมผัสร่วมบ่อย ๆ โดยเฉพาะห้องส้วม เช่น ลูกบิด กลอนประตู เป็นต้น รวมทั้งการควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการไม่ให้แออัด มีการเว้นระยะห่างทางสังคม 1-2 เมตร เพราะถึงแม้ว่าขณะนี้สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทยจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังป้องกันตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดต่อเนื่องต่อไป” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด