ผู้ประกอบการ นักดนตรีต้องช่วยกันดูแลแขกที่ร้องเพลง ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ถ้าไม่ใส่ ไม่อนุญาตให้ร้อง และไม่ให้ร้องเพลงหมู่ เช่นเพลงอวยพรวันเกิด ยกเว้นทุกคนต้องใส่หน้ากาก เพราะมีบทเรียนจากหลายประเทศ อังกฤษ เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา และเกาหลีใต้ นักร้องประสานเสียงหนึ่งคนเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ สามารถแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ทางอากาศให้คนร่วมร้องเพลงเป็นกลุ่มก้อน (cluster) 40-50 คนในเวลาเดียวกัน มีบทความจากหนังสือพิมพ์นิวยอรก์ไทม์เมื่อเดือนที่แล้ว (ดูรูป) เขียนว่า ณ วันนี้ การร้องเพลงในสถานที่ปิดยังเป็นเรื่องที่ต้องคิดให้ดี ผมเชื่อว่าหากมีการระบาดรอบ 2 ในประเทศไทย สถานที่จะเป็นแหล่งระบาดเป็นกลุ่มก้อน น่าจะเป็นสถานบันเทิงที่มีการร้องเพลงมากที่สุด ถ้าเป็นเช่นนั้นสถานบันเทิงที่มีการร้องเพลงก็จะถูกสั่งให้ปิดรอบที่ 2 นักดนตรีก็จะตกงานอีก ผมไม่อยากเห็นอย่างนั้น
เวลาร้องเพลงละอองใหญ่และละอองฝอย ลอยออกจากปากคนร้อง กระเด็นไปในอากาศได้ไกลๆ (ดูรูป) โดยเฉพาะสถานที่นั้นอากาศปิด อากาศถ่ายเทไม่ดี ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ คนที่นั่งในห้องเดียวกัน ส่วนใหญ่ไม่ได้สวมหน้ากากเพราะกำลังรับประทานอาหาร หรือกำลังดื่ม หายใจอากาศปนเปื้อนเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้าไป ทำให้ป่วยพร้อมกันได้
หน้ากากอนามัยสำคัญที่สุดในการป้องกัน การใส่หน้ากากไม่ทำให้เสียงเปลี่ยนไป หรือทำให้เหนื่อยเวลาร้องเพลง หลังร้องเพลงจับไมโครโฟนที่ใช้ร่วมกัน ก่อนลงจากเวที ขอให้ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจลทุกครั้ง
ร้านอาหารครัวชุมสาย ซอยราชครูให้ความร่วมมืออย่างดี นักดนตรีใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าตลอดเวลา ติดโปสเตอร์ที่ผมทำขึ้นรณรงค์ให้ใส่หน้ากากในร้าน (ดูรูป) มีหน้ากาก และแอลกอฮอล์เจลตั้งไว้บนเวที เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ร้านอาหารอื่นๆให้ทำตาม นักดนตรี และคนขึ้นมาร้องเพลงต้องใส่หน้ากาก (ดูรูป) ผมสนับสนุนให้คนที่อยากร้องเพลงออกมาร้องได้แล้ว แต่ต้องช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดระบาดรอบ 2 ด้วยการใส่หน้ากากเวลาร้องเพลง
ผมเคยแวะเข้าไปร้านอาหารอื่น เห็นคนร้องเพลงไม่ใส่หน้ากาก ต้องเดินออก ไม่กล้านั่งในร้านอาหารนั้นๆ อยากให้ร้านอาหารที่มีดนตรีสด และคาราโอเกะทุกแห่งปฏิบัติตามร้านครัวชุมสาย เพื่อป้องกันการระบาดรอบที่ 2