พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เผยรัฐบาลพร้อมดูแล อสม. ทั่วประเทศ พร้อมโอนเงินเสี่ยงภัยให้ อสม. ทั่วประเทศ 7 เดือน วอนทุกคนไม่ประมาทร่วมมือเฝ้าระวัง ป้องกันการแพร่ระบาดโควิด19 ระลอก 2
วันนี้ (21 ก.ย.63) เวลา 10.00 น. ณ IMPACT FORUM Hall 4 ชั้น 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงานรณรงค์เตรียมความพร้อม อสม. เฝ้าระวัง ป้องกัน การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ระลอกที่ 2 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสาธิต ปิตุเตซะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการ อสม. ประธาน อสม. และอสม. กว่า 2,000 คน เข้าร่วมงาน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ขณะนี้ว่า แม้สถานการณ์จะดีขึ้นและสามารถควบคุมการแพร่ระบาดภายในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างเคร่งครัดและไม่ประมาท โดยต้องเตรียมความพร้อมเพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 ซึ่ง อสม. เป็นบุคลากรที่มีความสำคัญในการดำเนินงานเฝ้าระวัง ป้องกันโรคในชุมชน ร่วมกับภาคีเครือข่ายเพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า อสม. ยังจะเป็นแกนนำ "รวมไทยสร้างชาติ" เพื่อให้เกิดความปลอดภัยด้านสุขภาพให้มากที่สุดและตลอดไปไม่ใช่เฉพาะเรื่องโควิด19 เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสถานการณ์อื่น ๆ ของปัญหาสุขภาพอีกด้วย เช่น การเข้าไปให้ความรู้และดูแลผู้ป่วยติดเตียงในชุมชน เป็นต้น
นายกรัฐมนตรีชื่นชมอาสาสมัครสาธารณสุขประจาหมู่บ้าน (อสม.) ว่าเป็นผู้มีอุดมการณ์แห่งจิตอาสา ปฏิบัติงานด้วยความเสียสละ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และเป็นด่านหน้าสำคัญ ในการเฝ้าระวัง คัดกรองกลุ่มเสี่ยง ป้องกันโรคโควิด 19 จนเป็นที่ยอมรับ ยกย่อง และประเทศไทยได้รับการชื่นชมจากสังคมทั่วไป ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ว่ามีระบบสาธารณสุขที่ดีที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมสนับสนุนการทำงานของ อสม. อย่างเต็มที่ เพื่อบรรเทาภาระค่าใช่จ่ายในการที่ต้องออกมาปฏิบัติหน้าที่และนโยบายเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้กับ อสม. โดยจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นค่าตอบแทน ชดเชย เยียวยา และเสี่ยงภัยให้กับ อสม. โดยในเบื้องต้น คณะรัฐมนตรีมีมติให้สนับสนุนค่าตอบแทนดังกล่าวเป็นระยะเวลา 7 เดือน และจะยังคงดูแลให้ อสม. สามารถปฏิบัติงานเฝ้าระวัง ป้องกันโรคโควิด 19 ระลอกที่ 2 อย่างต่อเนื่องต่อไป โดยหวังว่าพลังความร่วมแรงร่วมใจกันของทุกภาคส่วนจะส่งผลให้ประเทศไทยก้าวผ่านภาวะวิกฤติในครั้งนี้ไปด้วยดี
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ทำพิธีเชิงสัญลักษณ์กดปุ่มโอนเงินค่าตอบแทน เยียวยา และเสี่ยงภัยให้กับ อสม. ทั่วประเทศ 1,054,729 คน ระยะเวลา 7 เดือน (เดือนละ 500 บาท) เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานของ อสม.ต่อไป โดยขอให้อสม. ใช้จ่ายเงินที่ได้รับให้เกิดประโยชน์สูงสุดเกิดการหมุนเวียนและฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ
ทั้งนี้ ประธาน อสม. แห่งประเทศไทย ในฐานะตัวแทน อสม. ทั่วประเทศได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีที่สนับสนุนการทำงานของอสม. ด้วยดีมาโดยตลอด โดยอสม. ทุกคนให้คำมั่นร่วมกันเฝ้าระวัง ป้องกัน การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ระลอกที่ 2 ในชุมชน รวมทั้งปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างเต็มกำลังความสามารถ
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก