นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้อนุมัติให้นักธุรกิจและผู้มีใบอนุญาตทำงานเดินทางเข้าประเทศมาแล้ว จำนวนประมาณ 11,000คน และคนกลุ่มนี้ได้ยอมรับการเข้ากักตัวในสถานกักกันทางเลือก (Alternative State Quarantine: ASQ) 14วัน
โดยขณะนี้ ศบค. ได้อนุมัติให้มีนักท่องเที่ยวแบบ Long Stay โดยใช้ Special Tourist Visa (STV) ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 แล้ว ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวจะต้องเข้ารับ การกักตัวในสถานกักกันทางเลือก (Alternative State Quarantine: ASQ) 14วัน ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในระยะต่อไป รัฐบาลเห็นความจำเป็นที่ควรอนุญาตให้กลุ่มนักธุรกิจที่จะเข้ามาเจรจาธุรกิจ และพิจารณาตัดสินใจด้านการลงทุน เดินทางเข้ามาในประเทศ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูงในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
แต่ทั้งนี้ เนื่องจากนักธุรกิจกลุ่มดังกล่าวเดินทางเข้ามาเป็นระยะสั้น จึงควรต้องมีมาตรการพิเศษในการกำกับดูแล ซึ่งในเบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้เตรียมนำเสนอมาตรการในการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาด COVID-19 ซึ่งมีเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นประธาน เพื่อนำข้อสรุปเสนอท่านนายกรัฐมนตรีต่อไป
ทั้งนี้ รายละเอียดของมาตรการอาจมีเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงได้ โดยคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด- 19) จะมีการประชุมเพื่อหาข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้ และในขั้นตอนต่อจากนี้ จะมีการพิจารณาเพิ่มเติมเพื่ออนุมัติให้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นลำดับต่อไป