ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๓๐ น. ณ ห้องแกรนด์พาลาสโซ ชั้น ๗ โรงแรมพาลาซโซ ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายอุทัย สินมา อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีแรงงานภาค ๓ รักษาการในตำแหน่งอธิบดีอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด เป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ เพื่อถ่ายทอดวิสัยทัศน์และแนวทางในการเอาชนะยาเสพติด ในหัวข้อ " หลักการและนโยบายเกี่ยวกับการดำเนินคดียาเสพติด และมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดียาเสพติด " ให้กับผู้เข้าร่วมโครงการฝึกอบรมหลักสูตร " อัยการผู้ช่วย " รุ่นที่ ๖๑ พ.ศ. ๒๕๖๓ (สนามใหญ่) ภาควิชาการ โดยมีผู้เข้ารับการฝึกอบรม จำนวน ๓๐๙ คน
ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า ในฐานะที่ทุกท่านเป็นอัยการ ซึ่งจะต้องใช้กฎหมาย ขณะนี้ทางรัฐบาลโดยกระทรวงยุติธรรม ได้เสนอร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาของรัฐสภาแล้ว โดยเอากฎหมายเก่า ๆ ทั้งหมด รวมเป็นฉบับเดียวซึ่งจะง่ายต่อการบังคับใช้ เพราะเป็นการปรับกฎหมายทั้งหมดให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน นอกจากการทำประมวลกฎหมายยาเสพติดแล้ว ตอนนี้เรามีเครื่องมือในการตรวจสารเสพติดที่ทันสมัย โดยกำลังผลักดันให้เป็นกฎหมายให้พวกท่านได้ใช้ในการตรวจหาสารเสพติดในเส้นผม ซึ่งสามารถตรวจย้อนหลังได้ ๖ - ๑๐ เดือน แต่การตรวจมีค่าใช้จ่ายสูง ตนกำลังขอให้ลดลงมาโดยให้ สำนักงาน ป.ป.ส. จัดสรรงบประมาณมาดูแลเรื่องนี้ เพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งการตรวจด้วยเทคโนโลยีใหม่นี้ใช้เวลาเพียง ๕๐ นาที เท่านั้น และสามารถตรวจแยกสารอย่างละเอียดได้ถึง ๓๐ ชนิด ทั้งนี้ ปัญหายาเสพติดยังมีประเด็นเกี่ยวกับผู้ต้องขัง ซึ่งในประเทศไทยมีผู้ต้องขัง ๘๐% หรือประมาณ ๓๘๐,๐๐๐ คน เป็นผู้ตัองขังในคดียาเสพติด ในตอนนี้กำลังประสบปัญหาผู้ต้องขังล้นคุก จึงต้องคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้คนที่พ้นโทษไปแล้วกลับมาติดคุกอีก ดังนั้น การป้องกันและการปราบปรามปัญหายาเสพติดต้องเข้มข้นขึ้น ซึ่งการยึดทรัพย์ตัดวงจรเครือข่ายยาเสพติดให้สิ้นซาก สืบค้นเส้นทางธุรกรรมและการใช้แวลูเบต ประเมินมูลค่ายาเสพติดเพื่อยึดทรัพย์ย้อนหลังด้วย นอกจากนี้เราต้องเริ่มต้นที่ต้นทาง คือการสร้างเกราะป้องกันไม่ให้คนหันไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งต้องเริ่มต้นที่ครอบครัว และถือเป็นการบ้านข้อใหญ่ที่เราต้องช่วยกันคิด เราถึงจะแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน คนไม่กลับไปติดคุกอีก และอาจจะแก้ปัญหาคนไม่มีงานทำได้อีกด้วย วันนี้ทุกท่านคือทรัพยากรที่มีประโยชน์ และเป็นตัวจักรสำคัญที่ช่วยให้การปราบปรามยาเสพติดเดินหน้าไปได้ และช่วยให้ดำเนินการยึดทรัพย์จากกระบวนการค้ายาเสพติดประสบความสำเร็จ พวกเราต้องช่วยกันให้ลูกหลานชาวไทยหลุดพ้นจากวงจรยาเสพติด