เมื่อวันที่ 8 พ.ย. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนออกมาท่องเที่ยวในช่วงปลายปี ซึ่งเป็นช่วงที่มีวันหยุดค่อนข้างมาก ตั้งแต่เดือน พ.ย. และ เดือน ธ.ค. ทั้งนี้ประชาชนสามารถท่องเที่ยวโดยใช้จ่ายผ่านโครงการของรัฐหลากหลายโครงการ เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่ปัจจุบันข้อมูล ณ วันที่ 8 พ.ย.2563 เหลือจำนวนสิทธิที่พัก 2,275,361 สิทธิ , เหลือสิทธิตั๋วเครื่องบิน 1,828,842 สิทธิ โครงการ “กําลังใจ” โดยรัฐสนับสนุนเงินให้คนละ 2,000 บาท แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร และ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล (รพ.สต.) เป็นค่าใช้จ่ายให้เที่ยวในประเทศ 2 วัน 1 คืน นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยว ยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีในโครงการช้อปดีมีคืนได้ด้วย
ทั้งนี้ ในเดือน พ.ย. มีวันหยุดตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นกรณีพิเศษ ในวันที่ 19-20 พ.ย.2563 ซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ จึงจะทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันตั้งแต่วันที่ 19 - 22 พ.ย. รวม 4 วัน ขณะที่เดือน ธ.ค.2563 มติ ครม.ได้ให้เลื่อนวันหยุดชดเชยวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษารัชกาลที่ 9 จากวันจันทร์ที่ 7 ธ.ค.เป็นวันศุกร์ที่ 11 ธ.ค.63 ซึ่งจะทำให้มีวันหยุดราชการต่อเนื่องรวม 4 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 10-13 ธ.ค.63 ทั้งนี้ เพื่อหวังจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการจับจ่ายใช้สอย
"สำหรับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน รับสิทธิส่วนลดค่าที่พัก 40% สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อคืน รวมไม่เกิน 10 ห้องหรือ 10 คืน , รับคูปองมูลค่าสูงสุด 900 บาทต่อวัน เพื่อใช้เป็นค่าอาหาร ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการ , คืนเงินค่าตั๋วเครื่องบิน 40% โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กำลังพิจารณาแนวทางการปรับปรุงโครงการให้ประชาชนได้รับความสะดวกสูงสุด พร้อมเพิ่มแรงจูงใจในการเข้าร่วมโครงการมากยิ่งขึ้น โดยหวังให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย มีเม็ดเงินกระจายลงสู่ผู้ประกอบการและคนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างทั่วถึง เพราะการท่องเที่ยว ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย การฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวจะช่วยให้เศรษฐกิจในภาพรวมดีขึ้น จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนออกมาเที่ยวในช่วงปลายปี โดยรัฐมีหลายมาตรการสนับสนุน"
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดหวังว่า ในช่วงปลายปี จะมีประชาชนเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้น หลังจากที่เกือบครึ่งปี ชาวไทยต้องงดการเดินทางเพื่อช่วยกันป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ ด้วยปัจจุบัน ประเทศไทยสามารถรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ไม่พบผู้ป่วยภายในประเทศเป็นเวลาต่อเนื่องกันกว่าร้อยวัน ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันในประสิทธิภาพของระบบการป้องกันโรคของประเทศไทย และเหล่านี้ถือโอกาสที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคระบาด โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ทางด้านกระทรวงสาธารณสุข ได้ย้ำถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และย้ำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจว่า มาตรการป้องกันโรคระบาด ต้องทำควบคู่กับการเดินหน้างานด้านเศรษฐกิจ จึงขอประชาชนอย่ากังวลเกี่ยวกับการเดินทางออกไปท่องเที่ยว โดยภาครัฐมีประสบการณ์ด้านการรับมือเป็นอย่างดี ยิ่งเมื่อประชาชนเที่ยวแบบ new normal ก็จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจ ไม่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และยังช่วยให้เศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนได้ดียิ่งขึ้นด้วย
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก