มติ ครม. 16 มี.ค. 2564 การบรรจุลูกจ้างประจำของกระทรวงสาธารณสุขในตำแหน่งอัตราข้าราชการตั้งใหม่ เพื่อรองรับภาวะฉุกเฉินในสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด – 19

16 มี.ค. 2564 เวลา 18:09 | อ่าน 1,149
 
การบรรจุลูกจ้างประจำของกระทรวงสาธารณสุขในตำแหน่งอัตราข้าราชการตั้งใหม่ เพื่อรองรับภาวะฉุกเฉินในสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด – 19


คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ในการประชุมครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2563 เรื่อง การบรรจุลูกจ้างประจำของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในตำแหน่งอัตราข้าราชการตั้งใหม่ เพื่อรองรับภาวะฉุกเฉินในสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด – 19 ตามที่สำนักงาน ก.พ. ในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) เสนอ


1. ให้ สธ. พิจารณาบรรจุบุคลากรกลุ่มพนักงานราชการ พนักงาน สธ. หรือลูกจ้างชั่วคราว ที่ยังตกค้างหรืออยู่ระหว่างแก้ไขปัญหาหรือข้อร้องเรียนในตำแหน่งว่างที่เหลือจากการบรรจุทั้ง 3 ระยะ ให้แล้วเสร็จก่อน โดยดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่ ก.พ. กำหนดไว้เดิม

2. หากมีตำแหน่งว่างคงเหลือจากการดำเนินการตามข้อ 1 คณะอนุกรรมการสามัญประจำกระทรวงสาธารณสุข (อ.ก.พ. สธ.) อาจพิจารณาบรรจุบุคลากร สธ. ที่ปฏิบัติงานในสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด - 19 ได้ตามเหตุผลความจำเป็น โดยคำนึงถึงความเป็นธรรม เป็นที่ยอมรับ และการป้องกันผลกระทบอื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้นภายหลัง ตามหลักเกณฑ์ที่ ก.พ. กำหนดไว้เดิม และให้รายงาน คปร. เพื่อทราบ นับแต่วันที่ อ.ก.พ. สธ. มีมติและบรรจุบุคลากรแล้วเสร็จภายใน 30 วัน


ทั้งนี้ ให้ สธ. ชี้แจงทำความเข้าใจกับบุคลากร สธ. ที่จะได้รับการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการให้ทราบและเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ อย่างถูกต้องตามข้อสังเกตของผู้แทนกรมบัญชีกลาง1 และเมื่อได้ดำเนินการบรรจุบุคลากรครบถ้วนตามที่ได้รับจัดสรรอัตราข้าราชการตั้งใหม่ จำนวน 38,105 อัตรา แล้ว ให้ สธ. รายงานผลการดำเนินการตลอดจนแจ้งการยุบเลิกตำแหน่งที่จ้างงานด้วยรูปแบบอื่นให้ คปร. ทราบเมื่อสิ้นไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (เดือนมีนาคม 2564) ด้วย


1 ผู้แทนกรมบัญชีกลางได้ให้ข้อสังเกตว่า ลูกจ้างประจำเป็นบุคลากรภาครัฐประเภทหนึ่งที่ได้รับสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ใกล้เคียงกับข้าราชการ การจะเปลี่ยนสถานะการจ้างลูกจ้างประจำมาเป็นข้าราชการจึงมีสิ่งที่ต้องพิจารณา 2 ประเด็น คือ ลักษณะงานและสิทธิประโยชน์ รวมทั้งการเปลี่ยนสถานะดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการคำนวณบำเหน็จบำนาญซึ่งไม่สามารถนับระยะเวลาต่อเนื่องได้ ดังนั้น หาก สธ. จะพิจารณาเปลี่ยนสถานะการจ้างงานจากลูกจ้างประจำเป็นข้าราชการ จึงควรชี้แจงทำความเข้าใจกับลูกจ้างประจำผู้ที่อยู่ในกรณีจะได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้ทราบเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่มีความแตกต่างกันกับการบรรจุบุคลากรใน 3 กลุ่มแรกที่ คปร. มีมติไว้แล้ว ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหรือข้อร้องเรียนภายหลัง


สำหรับภาระค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรหากส่วนราชการมีความจำเป็นต้องสรรหาอัตราบุคลากรตั้งใหม่และสามารถบรรจุได้ทันภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ขอให้ส่วนราชการพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายไว้แล้วในแผนงานบุคลากรภาครัฐไปดำเนินการเป็นลำดับแรก หรือขอโอนงบประมาณรายจ่ายบุคลากรตามระเบียบว่าด้วยการโอนงบประมาณรายจ่ายบูรณาการและงบประมาณรายจ่ายบุคลากรระหว่างหน่วยรับงบประมาณ พ.ศ. 2562 แล้วแต่กรณี โดยขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ส่วนภาระค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรในปีต่อ ๆ ไป ขอให้ส่วนราชการจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ การบรรจุบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุขตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ ก.พ. กำหนดไว้เดิม และไม่ก่อให้เกิดภาระงบประมาณเพิ่มเติมอย่างเคร่งครัด ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ


สาระสำคัญของเรื่อง
สำนักงาน ก.พ. ในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วม คปร. รายงานว่า

1. สธ. ได้ดำเนินการคัดเลือกและบรรจุบุคคลเข้ารับราชการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2563 โดยสามารถบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ สรุปได้ ดังนี้
ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2563

การบรรจุลูกจ้างประจำของกระทรวงสาธารณสุขในตำแหน่งอัตราข้าราชการตั้งใหม่ เพื่อรองรับภาวะฉุกเฉินในสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด – 19

หมายเหตุ : ข้อมูลอ้างอิงจากสำนักพัฒนาระบบจำแนกตำแหน่งและค่าตอบแทน ฝ่ายเลขานุการร่วม คปร.

จากข้อมูลข้างต้นพบว่า สธ. สามารถบรรจุบุคคลเข้ารับราชการได้จำนวน 34,926 อัตรา แต่ยังคงมีปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการ จึงทำให้ไม่สามารถบรรจุบุคคลเข้ารับราชการในอัตราข้าราชการตั้งใหม่ได้ครบทั้ง 38,105 อัตรา ตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบไว้ เช่น

(1) มีคุณสมบัติไม่ตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่ง 478 ราย (2) มีชื่อตำแหน่งที่ได้รับการจ้างงานอยู่เดิมไม่ตรงกับชื่อตำแหน่งในสายงานที่จะเข้ารับการคัดเลือกและบรรจุเข้ารับราชการ 575 ราย และ (3) มีการเปลี่ยนสถานที่ทำงานหรือเปลี่ยนประเภทการจ้าง ทำให้ไม่สามารถบรรจุในตำแหน่งที่ได้รับจัดสรร เนื่องจากคุณสมบัติของบุคลากรไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 18 ราย ดังนั้น สธ. จึงมีตำแหน่งว่างคงเหลือจากการบรรจุในระยะที่ 1 - 3 จำนวน 3,179 อัตรา และเป็นเหตุให้ สธ. มีคำขอให้กลุ่มลูกจ้างประจำสามารถเข้ารับการคัดเลือกและบรรจุเข้ารับราชการในตำแหน่งว่างดังกล่าว


2. คปร. ในการประชุม ครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2563 ได้พิจารณาเรื่อง การบรรจุลูกจ้างประจำของ สธ. ในตำแหน่งอัตราข้าราชการตั้งใหม่ เพื่อรองรับภาวะฉุกเฉินในสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด - 19 มีมติ ดังนี้

2.1 เห็นควรให้ สธ. พิจารณาบรรจุบุคลากรกลุ่มพนักงานราชการพนักงาน สธ. หรือลูกจ้างชั่วคราว ที่ยังตกค้างหรืออยู่ระหว่างแก้ไขปัญหาหรือข้อร้องเรียนในตำแหน่งว่างที่เหลือจากการบรรจุทั้ง 3 ระยะ ให้แล้วเสร็จก่อน โดยดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่ ก.พ. กำหนดไว้เดิม

2.2 หากมีตำแหน่งว่างคงเหลือจากการดำเนินการตามข้อ 2.1 อ.ก.พ. สธ. อาจพิจารณาบรรจุบุคลากร สธ. ที่ปฏิบัติงานในสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด – 19 ได้ตามเหตุผลความจำเป็น โดยคำนึงถึงความเป็นธรรม เป็นที่ยอมรับ และการป้องกันผลกระทบอื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้นภายหลัง ตามหลักเกณฑ์ที่ ก.พ. กำหนดไว้เดิม และให้รายงาน คปร. เพื่อทราบ นับแต่วันที่ อ.ก.พ. สธ. มีมติและบรรจุบุคลากรแล้วเสร็จภายใน 30 วัน

ทั้งนี้ ให้ สธ. ชี้แจงทำความเข้าใจกับบุคลากร สธ. ที่จะได้รับการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการให้ทราบและเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ อย่างถูกต้องตามข้อสังเกตของผู้แทนกรมบัญชีกลาง และเมื่อได้ดำเนินการบรรจุบุคลากรครบถ้วนตามที่ได้รับจัดสรรอัตราข้าราชการตั้งใหม่ จำนวน 38,105 อัตรา แล้ว ให้ สธ. รายงานผลการดำเนินการตลอดจนแจ้งการยุบเลิกตำแหน่งที่จ้างงานด้วยรูปแบบอื่นให้ คปร. ทราบเมื่อสิ้นไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (เดือนมีนาคม 2564) ด้วย


16 มี.ค. 2564 เวลา 18:09 | อ่าน 1,149
กำลังโหลด ...


รีวิวบ้านใหม่ ไอเดียสร้างบ้าน
 
แชร์
L
ซ่อน
แสดง
มาใหม่
ออกกำลังกายแล้วปวดกล้ามเนื้อจริงๆ แล้วควรหยุดพักจริงไหม?
18 17 เม.ย. 2568
ค่าตอบแทนพนักงานราชการ 2568 ใช้ในปัจจุบัน
314 17 เม.ย. 2568
สงกรานต์สุดคึกคัก! นักท่องเที่ยวต่างชาติทะลุเฉลี่ยวันละกว่าแสนคน เพิ่มขึ้นกว่า 10% รัฐบาลยืนยันเดินหน้าหนุนท่องเที่ยวไทยตลอดปี 2568
104 16 เม.ย. 2568
สงกรานต์ไป-กลับต้องปลอดภัย! รัฐบาลสั่งเข้มดูแลประชาชนเดินทางกลับ ตรวจเข้มความปลอดภัยทุกเที่ยวเสริมจุดต่อเชื่อมขนส่งสาธารณะ อำนวยความสะดวกครบวงจร
113 16 เม.ย. 2568
เตือน! นักดื่ม มีเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกัน เสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี แนะทานยา PEP ภายใน 72 ชั่วโมง รับบริการได้ที่ รพ.สังกัด สธ.
120 16 เม.ย. 2568
ปลัด สธ. แถลงอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ วันแรกเกิดอุบัติเหตุ 211 ครั้ง ส่วนใหญ่จากขับรถเร็วเกิน เตือนการใช้ยาคลายกล้ามเนื้อ อาจทำให้ง่วงและเกิดอุบัติเหตุได้
41 12 เม.ย. 2568
โอกาสทอง.. แรงงานไทยไปมาเก๊า เงินเดือนสูงสุด 9 หมื่นบาท สวัสดิการดี ถูกกฎหมาย สนใจสมัครที่เว็บไซต์ toea.doe.go.th ตั้งแต่วันนี้ - 16 เมษายน 2568
47 12 เม.ย. 2568
ความแตกต่างระหว่างการ เติมลมยาง ธรรมดา กับลมยางไนโตรเจน
84 6 เม.ย. 2568
ผู้หญิงขับรถ ต้องรู้และควรระวังอะไรบ้าง
59 6 เม.ย. 2568
ปุ่ม POWER TOYOTA ใช้งานอย่างไร ให้ได้ประสิทธิภาพ
64 6 เม.ย. 2568
ดูเพิ่มเติม
 
หาเพื่อนไลน์
ไอเดียบ้านสวย
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
หางานราชการ
  English
TOEIC กับ การขึ้นเงินเดือน GED VS กศน ไทย (สอบเทียบไทย) แนะนำที่เรียน IELTS ยอดนิยม ของ เด็กอินเตอร์ TOEIC Online GED CU-TEP SAT
 
บทความกลุ่มเดียวกัน
กำลังโหลด ...