ผมได้เสนอความเห็นตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้ว่า ในสถานการณ์ที่ประเทศไทยมีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ไม่เพียงพอ ประเทศไทยควรจะเร่งฉีดให้คนไทยทุกคน รวมทั้งแรงงานต่างด้าว และคนต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย (expat) คนละ 1 โดสเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ดีกว่าให้คนไทยเท่านั้นคนละ 2 โดส ณ เวลานั้นมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนยังไม่เพียงพอ
ในปัจจุบันมีหลักฐานแน่นหนา (solid evidence) จากต่างประเทศ พบว่าหลังฉีดวัคซีนบริษัทแอสตร้าเซเนก้าเข็มแรกในเวลา 4 สัปดาห์ สามารถป้องกันไม่ให้ป่วยหนักได้ 94% และถ้าหลังจากฉีดเข็มแรก 3 สัปดาห์สามารถป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนในครอบครัวได้ 50% ล่าสุดมีข้อมูลจากการศึกษาในคนไทยโดย ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข็มแรกเป็นเวลา 1 เดือน ตรวจวัดภูมิต้านทานได้ถึงร้อยละ 96.7 (ดูรูป) ยังขาดข้อมูลว่า การให้วัคซีนนี้เพียงเข็มเดียว ภูมิคุ้มกันจะอยู่ได้นานกี่เดือน แต่เราไม่ต้องกังวล เพราะเชื่อว่าทุกคนจะต้องได้ฉีดวัคซีนรุ่นใหม่ที่ถูกพัฒนาปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ๆ เพื่อมากระตุ้นภูมิคุ้มกันในปีหน้า
ในกรณีที่ประเทศไทยมีวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า 61 ล้านโดส กระทรวงสาธารณสุขควรปรับแผนกระจายฉีดคนไทยทุกคนอายุ 18 ปีขึ้นไป(ยกเว้นหญิงตั้งครรภ์) แรงงานต่างด้าว และคนต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย 61 ล้านคน คนละ 1 โดส วัคซีนบริษัทแอสตร้าเซเนก้าราคาถูกมาก 90-120 บาท (ดูรูป) ควรแจกฟรีให้เแรงงานต่างด้าวและคนต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทยทุกคน
ถ้าประเทศไทยหาวัคซีนแอสตร้าเซเนกามาได้ 100 ล้านโดสในปีนี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ควรปูพรมให้เข็มแรก 61 ล้านคน และให้ครบ 2 โดส 39 ล้านคน เลือกให้ 2 โดส คนสูงอายุ คนมีโรคประจำตัว และคนที่ต้องการใบรับรองฉีดครบ 2 โดสเพื่อเดินทางไปต่างประเทศ คนอายุน้อยกว่า 60 ปี ไม่มีโรคประจำตัวให้ 1 โดสก็พอ