โพสต์นี้มาว่ากันด้วยเรื่องของคุณภาพวัคซีนที่หลายคน ตั้งสมมติฐานจากข้อมูลที่ได้ยินได้ฟังมาจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ แอดมินขอหยิบเรื่องวัคซีน “แอสตราเซเนกา” ของอังกฤษ ซึ่งคุณหมอรุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง 11 และโฆษก สธ. บอกไว้ มาเล่าสู่กันฟัง
1) หลังฉีดวัคซีนนี้ 4 สัปดาห์เข็มเดียว สามารถป้องกันไม่ให้ป่วยหนักได้ถึง 94% และล่าสุดพบว่าหลังฉีด 3 สัปดาห์เพียงเข็มเดียว สามารถป้องกันการแพร่เชื้อให้คนในครอบครัวได้ถึง 50%
2) ประสิทธิภาพของวัคซีนแอสตราเซเนกาเมื่อให้เข็มเดียว ดูแล้วดีเท่ากับวัคซีนของจอห์นสันและจอห์นสัน ซึ่งใช้เทคโนโลยีเดียวกันที่ได้รับการรับรองให้ฉีดเพียงเข็มเดียว
3) ข้อมูลในโลกจริงหลังฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาทุกคนเข็มแรก สามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อ และลดจำนวนคนเสียชีวิตในอังกฤษ ซึ่งมีการแพร่ระบาดอย่างหนักของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ UK B.1.1.7 ที่กำลังแพร่ระบาดในประเทศไทยขณะนี้
4) ไทยเลือกวัคซีนแอสตราเซเนกาเป็นวัคซีนหลักของประเทศ โดยบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์เริ่มผลิตวัคซีน และเดือน มิ.ย. จะส่งมอบให้รัฐบาลได้ 6 ล้านโดส จนถึงเดือน ธ.ค. ได้ทั้งหมด 61 ล้านโดส
5) แผนปัจจุบันของ สธ. จะฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาให้เฉพาะคนไทยทุกคนที่อายุ 18 ปีขึ้นไป ยกเว้นหญิงตั้งครรภ์ โดยให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีโรคประจำตัวก่อน คนละ 2 โดส ห่างกัน 12 สัปดาห์
6) ถ้าฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา คนละ 2 โดส จากที่มีอยู่ 61 ล้านโดส เราควรปรับแผนตามประเทศอังกฤษ ไม่ต้องสำรองเข็ม 2 โดยเร่งปูพรมฉีดคนไทยทุกคน รวมไปถึงแรงงานต่างด้าวและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทยไปก่อนคนละ 1 เข็ม จากนั้นเมื่อได้วัคซีนมาเพิ่ม ค่อยฉีดเข็มที่ 2 ให้กับผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว และผู้ที่ต้องการใบรับรองฉีดวัคซีนโควิดครบ 2 โดส เพื่อเดินทางไปต่างประเทศ
7) ถ้าทำได้แบบนี้ เราจะมีภูมิคุ้มกันหมู่ ป้องกันการแพร่ระบาดในประเทศ และสามารถเปิดประเทศ ฟื้นฟูเศรษฐกิจได้เร็วขึ้น
ปีหน้าทุกคนต้องได้รับวัคซีนรุ่นใหม่เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และครอบคลุมเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ สายพันธุ์แอฟริกาใต้ บราซิล อินเดียและอื่น ๆ
จึงขอเชิญชวนให้ทุกคนลงทะเบียน และอย่ารีรอเมื่อได้รับการติดต่อให้ไปรับวัคซีน ขอให้กลัวไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษ ติดง่าย รุนแรงกว่าสายพันธุ์เดิม ทำให้ตายเร็ว และตายมากขึ้น
Cr : นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ