การยกหรือไม่ยกจึงไม่ต่างกัน เพราะไม่ว่ายังไงใบปัดน้ำฝนก็ยังได้รับความร้อนจากแสงแดดอยู่ดี แต่การเลือกสถานที่จอดในร่มก็อาจจะลดความเสื่อมสภาพได้ไม่มากก็น้อย
ช่วงนี้อยู่ในฤดูฝนแล้วก็จริง แต่ก็ยังร้อนและแดดแรงมากๆ แทบจะละลาย ซึ่งความจริงแล้วการยก ใบปัดน้ำฝน ขึ้นไม่ได้ช่วยยืดอายุการใช้งานอย่างที่เข้าใจ ใบปัดน้ำฝน มีการเสื่อมสภาพเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว โดยจะมีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อวัสดุหรือการดูแลรักษา ดังนั้นการยกหรือไม่ยกจึงไม่ต่างกัน เพราะไม่ว่ายังไงใบปัดน้ำฝนก็ยังได้รับความร้อนจากแสงแดดอยู่ดีครับ แต่การที่เลือกสถานที่จอดในร่มก็อาจจะลดความเสื่อมสภาพได้ไม่มากก็น้อย ในขณะเดียวกันถ้ายกที่ปัดน้ำฝนค้างไว้เป็นเวลานาน จะทำให้สปริงที่ยึดใบปัดให้แนบชิดสนิทกับกระจก เกิดการยืดตัว สปริงล้า ส่งผลให้แรงกดลงบนกระจกน้อยลง และทำให้ปัดน้ำฝนไม่เกลี้ยง
ใบปัดน้ำฝนเมื่อใช้งานใบนานๆ หากมีอาการดังขณะปัดน้ำฝน จะต้องดูว่าเสียงที่ดังเกิดจากตรงไหนบ้าง เช่น ตัวมอเตอร์ลูกหมากคันชัก แขนปัดน้ำฝน หรือ การสั่นขณะปัดน้ำฝนที่กระจก อาการมอเตอร์และลูกหมากรางปัดอาจทำการหล่อลื่นด้วยการทาจาระบี ส่วนถ้าเกิดจากการปัทน้ำฝน ลองทำความสะอาดผิวหน้ากระจก เช่น น้ำยาขัดทำความสะอาดกระจก หรือใช้น้ำยาล้างกระจกใส่ในหม้อฉีดน้ำกระจกอาจช่วยได้ ทางศูนย์บริการมีน้ำยาทำความสะอาดจำหน่ายอยู่ครับ
การดูแลรักษาใบปัดน้ำฝน หากมีการฉีกขาด แข็งกรอบ หรือปัดน้ำฝนไม่เกลี้ยง ควรทำการเปลี่ยนทันที ซึ่งการใช้ใบปัดน้ำฝนที่ถูกวิธีคือ ไม่ใช่ในขณะที่กระจกแห้ง เพื่อปัดฝุ่นละอองต่างๆ เพราะจะทำให้คมของยางสึก หากจะใช้งานใบปัดน้ำฝนควรฉีดน้ำใส่กระจกก่อนเสมอ และควรหมั่นทำความสะอาดใบปีดน้ำฝนอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง โดยการใช้ผ้าชุบน้ำบิดให้หมาด แล้วเช็ดตามความยาวของใบปัดน้ำฝนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน หากไม่เช็ดฝุ่นออกก่อนเปิดใช้งานใบปัดน้ำฝนจะทำให้เศษฝุ่นอาจเกิดการกดกับกระจกจนยางฉีกเป็นรอยทำให้การปัดน้ำฝนบนกระจกไม่เกลี้ยงได้