แต่ก่อนเราเคยเชื่อว่าการตรวจวินิจฉัยโรคโควิด-19 โดยใช้ชุดตรวจแบบรวดเร็ว Antigen Test Kit หรือ ATK บ่อยๆ มีประโยชน์ในการตรวจคัดกรอง สามารถแยกผู้ติดเชื้อที่ยังไม่มีอาการออกจากผู้ไม่ติดเชื้อ ช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้
เราทราบดีว่าวิธีตรวจ ATK มีความความจำเพาะต่ำประมาณร้อยละ 70 เท่านั้น หากตรวจได้ผลบวก จำเป็นต้องยืนยันด้วยการตรวจรหัสพันธุกรรม RT-PCR
แต่ปัจจุบันหลังเริ่มใช้งานจริง เราพบว่าการตรวจ ATK อาจไม่เหมาะที่จะนำมาใช้คัดกรองหาผู้ติดเชื้อในคนที่ไม่มีอาการ เพราะสร้างปัญหาใหม่ตามมามากมาย เสียทั้งเงิน ต้องตรวจซ้ำด้วย RT-PCR เสียเวลา สร้างความเครียด ความหวาดกลัว ตื่นตระหนกตกใจโดยไม่จำเป็น อาจเพิ่มจำนวนคนติดเชื้อ เพราะเอาคนที่ไม่ได้ติดเชื้อ ไปกักตัวอยู่ร่วมกับคนติดเชื้อโควิดในโรงพยาบาลสนามเป็นต้น
อย่างกรณีโรงเรียนที่ จ.มุกดาหาร ตรวจ ATK ได้ผลบวกปลอมในเด็กและครูประมาณ 100 คน ทำให้ทุกคนถูกกักตัว บางคนถูกแยกตัวไปอยู่ในโรงพยาบาลสนาม โรงเรียนทำความสะอาดและฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ปิดการเรียนการสอนชั่วคราวรวม 10 วัน
ต่อมามีการส่งเก็บสิ่งส่งตรวจไปตรวจรหัสพันธุกรรม RT-PCR ซ้ำ ซึ่งผลออกมาเป็นลบ ไม่พบว่าคนไหนติดเชื้อ แสดงว่า ATK ให้ผลบวกปลอมเยอะมาก (ดูรูป)
ปกติแล้วผู้ที่ติดเชื้อต้องมีผลการตรวจเป็นบวก และผู้ที่ไม่ติดเชื้อต้องมีผลการตรวจเป็นลบ หากตรวจแล้วพบผลบวก ควรเป็นบวกจริง ทำให้ค่อนข้างมั่นใจว่าติดเชื้อสูง ไม่ใช่บวกปลอมเป็นจำนวนมากอย่างในโรงเรียน จ.มุกดาหาร
ถึงเวลาแล้วเราควรพิจารณาแนวทางใหม่ในประเทศไทย ควรใช้ชุดตรวจ ATK เฉพาะในรายที่มีอาการผิดปกติ สงสัยว่าติดเชื้อ หรือมีความเสี่ยงที่รับเชื้อ เช่นมีประวัติใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ไม่ใช่นำไปตรวจเชิงรุก คัดกรองคนที่ไม่มีอาการ และไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงอย่างที่กำลังทำขณะนี้ ประโยชน์ที่ได้ ไม่คุ้มกับความเสียหายที่เกิดขึ้น
ข้อมูลจาก หมอมนูญ