อึ้ง..! อ.ธนากร ตันอาวัชนาการ ซินแสชื่อดัง ชี้ ปฏิทินจีนที่ใช้ในประเทศไทยทั้งประเทศ สลับวันกันในเดือน 4 และเดือน 5 ของจีน ย้ำผลกระทบมหาศาล ศาสนพิธีทางจีนป่วนหนัก ส่วนฤกษ์ยามมงคล อาจจะกลายเป็นร้ายทันที...
กลายเป็นกรณีศึกษาอีกครั้ง หลังจากมีผู้นำเรื่องออกมาเปิดประเด็นกรณีปฏิทินจีนปี 2556 ที่ใช้กันในประเทศไทยทั้งประเทศเป็นไปได้ว่าจะมีคลาดเคลื่อน เนื่องจากมีการสลับวันกันในเดือน 4 ต่อเดือน 5 ของจีน ส่งผลให้การทำศาสนพิธีต่างๆ ผิดแล้วยังกระทบการให้ฤกษ์ยามและวันสำคัญที่อยู่ในเดือนดังกล่าวคลาดเคลื่อนอย่างมโหฬาร
ล่าสุด อ.ธนากร ตันอาวัชนาการ ซินแสฮวงจุ้ยนักคำนวณชื่อดัง ผู้ที่ออกมาเปิดประเด็นร้อนทั้งหมดนี้ผ่านไทยรัฐออนไลน์ที่แรกกล่าวถึงความคลาดเคลื่อนของปฏิทินจีนที่ใช้ในประเทศไทยและทั่วโลกในปี 2556 นี้คำนวณวันสลับกันว่า เรื่องนี้ตนเองได้รับแจ้งจากพระจีนตามวัดต่างๆ มากมายถึงข้อสงสัยว่าอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของปฏิทินจีนที่คนส่วนใหญ่ในประเทศไทยใช้กัน ซึ่งเมื่อนำมาเปิดปฏิทินที่ใช้กันในวัดจีนเจ้าปัญหาดูก็พบว่าในเดือนที่ 4 และเดือนที่ 5 คลาดเคลื่อนจริง ส่งผลกระทบมหาศาลต่อฤกษ์ยามเดือน 4 ต่อเดือน 5 ในทางจีน หรือระหว่างในวันที่ 8 มิถุนายนจนถึงวันที่ 8 กรกฎาคมของสากล ฤกษ์ยามผิดทั้งหมด
“ปฏิทินที่มีปัญหาคือปฏิทินที่ทางวัดจีนส่วนใหญ่ในประเทศไทยใช้กันแทบจะทั้งนั้น โดยจำนวนวันของปฏิทินจีนส่วนใหญ่นั้นระบุจำนวนวันใน 1 ปีว่า เดือนที่ 1 มี 30 วัน เดือนที่ 2 มี 29 วัน เดือนที่ 3 มี 30 วัน เดือนที่ 4 มี 29 วัน เดือนที่ 5 มี 30 วัน เดือนที่ 6 มี 30 วัน เดือนที่ 7 มี 29 วัน เดือนที่ 8 มี 30 วัน เดือนที่ 9 มี 29 วัน เดือนที่ 10 มี 30 วัน เดือนที่ 11 มี 29 วัน เดือนที่ 12 มี 30 วัน แต่ปฏิทินจีนที่ซินแสและผู้เชี่ยวชาญเรื่องดวงนั้น ส่วนใหญ่จะยึดปฏิทินของ อ.ชัยเมษฐ์ เชี่ยวเวชกัน โดยปฏิทินฉบับนี้แตกต่างกันแค่เดือน 4 กับ เดือน 5 คือเลข จำนวนของ 2 เดือนนี้สลับวันกัน พูดง่ายๆ เดือนที่ 4 ในปฏิทินนี้จะมี 30 วัน และเดือนที่ 5 จะมี 29 วัน นั่นเท่ากับว่า ถ้าซินแสหรือหมอดู ผู้รู้คนใดให้ฤกษ์ระหว่างนี้ไปผิดทั้งหมด ซึ่งน่าเป็นห่วงมากมาย”
ซินแสผู้เชี่ยวชาญเรื่องการคำนวณผู้นี้บอกว่า ที่จริงเรื่องนี้ในสมัยพุทธกาลก็เคยมีปัญหาเรื่องนี้เหมือนกัน โดยการดูขึ้นแรมจากท้องฟ้าจริงๆ คณะสงฆ์ 2 ฝ่ายเห็นไม่เหมือนกันทำให้วันปาติโมกข์ สงฆ์ทะเลาะกันว่าวันไหนเป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวง พร้อมกับย้ำว่าโดยส่วนตัวเชื่อว่าการเคลื่อนครั้งนี้มี 2 เหตุผล 1.ปฏิทินที่ว่านี้วางวันสลับกัน หรือพูดง่ายๆ คัดลอกมาผิด หรือ 2.การคำนวณคิดเศษส่วนของวันในทางจีนของปฏิทินนี้ผิดพลาด ซึ่งกรณีนี้เรื่องใหญ่ก็ต้องมาหาทางแก้ไขตกลงว่าเป็นประเด็นไหนกันแน่
อ่านต่อที่นี้
http://www.thairath.co.th/content/life/331740
ข้อมูลจาก ไทยรัฐออนไลน์