ห้ามเด็ดขาด!!
การขับรถบนท้องถนน นอกจากต้องเคารพกฎหมายแล้ว ยังต้องใส่ใจผู้ขับขี่บนท้องถนนอื่นๆ ด้วย การกระทำเห็นแก่ตัวเล็กๆ น้อยๆ อาจสร้างความเสียหายและความเดือดร้อนให้ผู้อื่นได้ตั้งแต่น้อยไปจนถึงมาก และอาจถึงชีวิตด้วย และตัวอย่างพฤติกรรมที่ไม่ควรทำเพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนี้
ไม่เปิดไฟเลี้ยว การเปิดไฟเลี้ยวตอน ขับรถ เป็นสิ่งสำคัญในการส่งสัญญาณเพื่อบอกรถคันหลัง ทำให้รถที่ขับตามหลังรู้ว่ารถคันข้างหน้าจะไปในทิศทางไหน จึงชะลอความเร็ว ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้ การให้สัญญาณไฟเลี้ยว ควรเปิดก่อนที่จะเลี้ยวอย่างน้อยก่อน 30 เมตร และให้ผู้ขับขี่รถคันอื่น เห็นได้ในระยะไม่น้อยกว่า 60 เมตร
ขับรถปาดหน้า
การขับรถปาดหน้าจะทำให้รถคันอื่นเสียหลัก จนอาจเกิดอุบัติเหตุถึงขั้นเสียชีวิตได้ หรือเกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันบนท้องถนนได้ ที่สำคัญการขับรถปาดหน้ายังมีความผิดฐานขับรถในลักษณะประมาทหวาดเสียวอาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่น ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 (4) ต้องระวางโทษปรับ ตั้งแต่ 400 – 1,000 บาท
ขับรถคร่อมเลน
การขับรถคร่อมเลนเป็นการขับขี่ที่ไม่มีวินัย และแสดงถึงความไม่มีนำใจของคนขับ สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น และเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้สูง และความผิด ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 (แก้ไขเพิ่มเติมถึง พ.ศ.2538) ในมาตราที่ 43(6) ,157 กล่าวไว้ว่า การขับรถคร่อมหรือทับเส้นแนวแบ่งช่องเดินรถ(เว้นเปลี่ยนช่องเดินรถ,เลี้ยวรถหรือกลับรถ) ถือว่ามีความผิดมีโทษปรับอยู่ที่ 400 – 1,000 บาท
นึกจะจอดก็จอด
การขับขี่บนท้องถนนเราไม่สามารถทำอะไรตามใจฉันได้ เพราะต้องเห็นอกเห็นใจผู้ใช้ถนนร่วมกันด้วย การนึกจะจอดก็จอด จะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงใหญ่ได้ ฉะนั้นเวลาจะจอดต้องดูความพร้อมและเพื่อนร่วมทางด้วย
ขับจี้ท้ายรถคันอื่น
การขับรถจี้ท้ายคันอื่น เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเป็นอย่างมาก เพราะหากคันหน้าเกิดชะลอตัวหรือเบรกกะทันหัน อาจเกิดการชนกันได้ การขับรถบนท้องถนนที่ดีต้องรักษาระยะห่างให้เหมาะสม เพราะถ้าขับจี้เกินไปคุณอาจโดนข้อหาในมาตร 40 ตามพรบ.จราจรทางบกได้
ขับรถย้อนศร
การขับรถย้อนศรเป็นการกระทำที่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ทั้งยังเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตราที่ 43 วรรค 8 ที่ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของคนอื่น ผู้ที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องถูกระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 – 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ