เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2565 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วย ทพ.วิรัตน์ เอื้องพูลสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ สปสช. เขต 13 กรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่เยี่ยมชมการรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่ม 608 (ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว) ณ โรงพยาบาลสนาม และคลินิก เจอ แจก จบ โรงพยาบาลปิยะเวท พระราม 9 โดย มี นพ.วิทิต อรรถเวชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทโรงพยาบาลปิยะเวท พาเยี่ยมชม
นพ.นิรันดร์ จันทร์ตระกูล ผู้อำนวยการบริษัท โรงพยาบาล ปิยะเวท จำกัด มหาชน เปิดเผยว่า ทาง รพ.ปิยะเวท ได้ร่วมสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้ได้รับการดูแลและเข้าถึงบริการโดยเร็วที่สุด โดยล่าสุดได้มีการจัดตั้งคลินิก เจอ แจก จบ ไปเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อรองรับตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
สำหรับคลินิก เจอ แจก จบ ของ รพ.ปิยะเวท แห่งนี้จะมีแพทย์ เภสัชกร รวมทั้งเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ที่ประมาณ 12-15 คน มีศักยภาพในการรองรับผู้ป่วยได้ประมาณ 200 รายต่อวัน โดยเบื้องต้นแพทย์จะคอยดูแลผู้ติดเชื้อทุกคนที่เข้ามารับบริการ ว่ารายใดมีแนวโน้มอาการเข้าข่ายผู้ป่วยสีเหลือง หรือสีแดง ขณะเดียวกันก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยทำการคัดกรองว่าหากรายใดจำเป็นจะต้องนอนโรงพยาบาล ทางเจ้าหน้าที่ก็จะส่งเข้าโรงพยาบาลเลย โดยที่ไม่ต้องรอแพทย์เพียงอย่างเดียว สอดคล้องกับตามความต้องการของรัฐบาลที่ต้องการเห็นผู้ป่วยระดับสีเหลืองและสีแดงได้รับการดูแลทั้งหมด
“เราเปิดจุดบริการตรงนี้เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่า เมื่อติดเชื้อแล้วจะได้รับการดูแล สามารถเดินเข้ามา แสดงตัวตน พร้อมรับยากลับบ้านได้เลย หรือในกรณีผู้ที่มีความยากลำบากในการรักษาตัวที่บ้าน ก็สามารถถือกระเป๋าเสื้อผ้าสำหรับ 10 วัน มาพร้อมกักตัวที่โรงแรมได้ทันที ซึ่งทั้งหมดไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะมีแต่ละกองทุนสุขภาพที่คอยดูแลตามสิทธิรักษาของประชาชน เช่น สิทธิบัตรทอง 30 บาท สปสช.เป็นผู้ดูแล ผู้ประกันตนเป็นสำนักงานประกันสังคมดูแล ส่วนข้าราชการและครอบครัวก็อยู่ในการดูแลของกรมบัญชีกลาง เป็นต้น” นพ.นิรันดร์ กล่าว
นพ.นิรันดร์ กล่าวว่า ในส่วนของการให้ยาสำหรับผู้ป่วย เจอ แจก จบ ทั้งหมดจะอยู่ภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์ พร้อมกับอุปกรณ์เครื่องมือที่จะแจกให้กับผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว เครื่องวัดอุณหภูมิ ถุงแดงสำหรับใส่ขยะติดเชื้อ รวมถึงหน้ากากอนามัย เป็นต้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย ส่วนกรณีผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการมากขึ้น ก็จะพิจารณาจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ให้เป็นรายๆ นอกจากนี้ในส่วนของผู้ป่วยที่เป็นชาวต่างชาติ ก็มีสิทธิเข้ามาใช้บริการและขอรับยาที่นี่ได้ด้วยเช่นกัน
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ปัจจุบันด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่เปลี่ยนไปเป็นการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน ทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อเยอะ และติดเร็ว แต่ว่าอาการน้อย ดังนั้นแนวทางในการดูแลจึงเป็นการดำเนินตามนโยบาย สธ. คือหากประชาชนตรวจ ATK พบว่าขึ้นสองขีดแล้วไม่มีอาการ ก็สามารถรักษาตัวอยู่ที่บ้านได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องลงทะเบียนใดๆ
ส่วนในอีกกรณีหากประชาชนมีอาการไม่มาก ก็จะดำเนินตามนโยบายเจอ แจก จบ ซึ่งโดยหลักแล้วคือการให้ประชาชนไปยังหน่วยบริการตามสิทธิของตน ซึ่งหากเป็นในสิทธิระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ก็อาจเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ โดยแพทย์จะตรวจอาการผู้ป่วยแล้วให้รับยากลับบ้าน หลังจากนั้นภายใน 48 ชั่วโมง แพทย์จะมีการติดต่อกลับไปเพื่อสอบถามอาการ ซึ่งหากพบว่าไม่มีอาการอะไรเพิ่มเติม ประชาชนก็สามารถดูแลตัวเองต่อจนครบ 10 วันตามกระบวนการ
“มีประชาชนถามเข้ามาเยอะว่า เจอ แจก จบ จะไปรับบริการได้ที่ไหน จะได้รับยา ได้พบแพทย์หรือไม่ วันนี้เราจึงมาดูระบบของ รพ.ปิยะเวท ที่ได้ขยายจุดบริการไว้ว่าเป็นอย่างไร พร้อมกับดูว่าระบบที่เราออกแบบไว้มีข้อขัดข้องในหน้างานตรงจุดไหนหรือไม่ เพื่อให้มีการแก้ไขได้อย่างตรงจุด” ทพ.อรรถพร กล่าว