วันที่ 3 มิ.ย. 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ.ได้มีมาตรการลดหย่อนหนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือและให้โอกาสผู้กู้ยืมเงินที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด19 ซึ่งได้ขยายระยะเวลามาแล้ว 1 ครั้งและจะสิ้นสุดระยะเวลาที่ขยายในวันที่ 30 มิ.ย. 2565 นี้ แล้ว รัฐบาลจึงขอเชิญชวนผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการชำระหนี้ ติดต่อเพื่อรับประโยชน์จากมาตรการก่อนระยะเวลาดังกล่าวจะสิ้นสุดลง
สำหรับประโยชน์จากมาตรการที่ กยศ. จะให้ถึง 30 มิ.ย. นี้ ได้แก่ ลดเงินต้นร้อยละ 5 สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้และต้องการปิดบัญชีในคราวเดียว, ลดเบี้ยปรับร้อยละ 100 สำหรับผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มที่ชำระหนี้ปิดบัญชี โดยกรณีผู้กู้ที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี ชำระได้ที่ธนาคารกรุงไทยและธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา ส่วนผู้กู้ยืมที่ถูกดำเนินคดีแล้ว ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิและนัดหมายวันที่ประสงค์จะชำระหนี้ปิดบัญชีได้ที่ https://www.studentloan.or.th/promotion ซึ่งกรณีนี้ผู้กู้เงินต้องชำระค่าทนายความและค่าฤชาธรรมเนียมศาลให้เสร็จสิ้นก่อนปิดบัญชี
นอกจากนี้ กยศ. ยังลดเบี้ยปรับร้อยละ 80 สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ และที่ กยศ. ดำเนินการให้อัตโนมัติโดยผู้กู้ไม่ต้องแจ้งเพื่อเข้าร่วมมาตรการคือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากเดิมร้อยละ 1 ต่อปี เป็นร้อยละ 0.01 ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า หน่วยงานต่างๆ ได้ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือเพื่อแบ่งเบาและแก้ไขหนี้สินครัวเรือนให้กับประชาชนตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่กำหนดให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้ไขหนี้ครัวเรือน ซึ่งในส่วนของกระทรวงยุติธรรมโดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมบังคับคดี ร่วมกับ กยศ. และสถาบันการเงินต่างๆ จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนทั่วประเทศ ช่วยเหลือประชาชนรวมถึงลูกหนี้ กยศ. ไกล่เกลี่ยหนี้ทั้งก่อนฟ้องและหลังฟ้อง ซึ่งตั้งแต่เดือน ก.พ. จนถึงขณะนี้ได้จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ฯ ไปแล้ว 19 ครั้ง ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 14,538 ราย ทุนทรัพย์ 3,461 ล้านบาท