วันนี้ (1 สิงหาคม 2565) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยข้อมูล ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ยอดผู้ป่วยรายใหม่ (รักษาตัวใน รพ.) จำนวน 2,108 ราย จำแนกเป็นผู้ป่วยในประเทศ 2,107 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 1 ราย ผู้ป่วยสะสม 2,368,849 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) หายป่วยกลับบ้าน 2,540 ราย หายป่วยสะสม 2,369,676 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 22,710 ราย โดยมีจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 879 ราย และเสียชีวิต 19 ราย ซึ่งภาพรวมกราฟผู้ป่วยรายใหม่ ผู้ป่วยปอดอักเสบ ใส่ท่อช่วยหายใจ และผู้เสียชีวิตยังทรงตัว โดยกรุงเทพมหานครยังเป็นพื้นที่ที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุดจำนวน 1,566 ราย
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับ สธ. เตรียมพร้อมระบบรองรับผู้ป่วยอาการหนักต้องเพียงพอและพร้อมดูแลประชาชน หลังอัตราครองเตียงยังคงทรงตัว พร้อมเน้นย้ำขอทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยลดความรุนแรงของโรค แม้เคยเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 มาก่อนก็ตาม เนื่องจากวัคซีนยังมีความสำคัญช่วยลดความรุนแรงของโรคและลดอัตราการเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ ข้อมูลสาธารณสุขยืนยันผู้ที่ติดเชื้อและเคยฉีดวัคซีนมาแล้ว หรือติดเชื้อแล้วฉีดวัคซีนจะมีภูมิต้านทานที่ค่อนข้างสูง ที่เรียกว่า “ภูมิต้านทานแบบลูกผสม” อย่างไรก็ตาม ในอนาคตอาจต้องมีการฉีดทุกปีคล้ายคลึงกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งจะต้องปรับเปลี่ยนให้ตรงกับสายพันธุ์ที่ระบาด และจะมีการฉีดในกลุ่มเสี่ยง และให้ประจำปี เนื่องจากผู้ที่เคยติดเชื้อแล้วก็อาจมีโอกาสติดเชื้อซ้ำได้อีก