“อลงกรณ์” เผยครึ่งปีแรก ไทยยืนเบอร์ 1 แชมป์โลกส่งออกยาง ครองสัดส่วนตลาดจีน 49% คกก.รักษาเสถียรภาพราคายางกระทรวงเกษตรฯ ออก 6 มาตรการบุกตลาดเชิงรุก

13 ส.ค. 2565 เวลา 09:48 | อ่าน 417
 
ไทยยืนเบอร์ 1 แชมป์โลกส่งออกยาง ครองสัดส่วนตลาดจีน 49% คกก.รักษาเสถียรภาพราคายางกระทรวงเกษตรฯ ออก 6 มาตรการบุกตลาดเชิงรุก

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามและเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาราคายางและรักษาเสถียรภาพราคายางของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยวันนี้ ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 4/2565 ณ ห้องประชุมรัษฎา อาคาร 2 ชั้น 2 การยางแห่งประเทศไทย และผ่านระบบการประชุมออนไลน์ Zoom Cloud Meeting โดยกล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจและภาวะตลาดยาง รวมทั้งมุมมองและข้อเสนอแนะจากสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรของไทยทุกภูมิภาคทั่วโลก และรายงานของการยางแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ตลา และการส่งออกครึ่งปี 2565 ยังครองตำแหน่งประเทศผู้ส่งออกยางอันดับ 1 ของโลกด้วยปริมาณการส่งออกยางธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์ยาง 2,190,065 ตัน โดยเฉพาะจีนนำเข้ายางไทยเป็นอันดับหนึ่งครองมาร์เก็ตแชร์ถึง 49% รวมทั้งรายงานความก้าวหน้าของมาตรการรักษาเสถียรภาพราคายาง โดยกยท. เพื่อประกอบการพิจารณากำหนดมาตรการเตรียมความพร้อมและสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความผันผวนของราคายาง ซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิดและสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังยืดเยื้อส่งผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบต่อต้นทุนการผลิต ระบบโลจิสติกส์ สถานการณ์เงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยและภาวะตลาด ทำให้ราคาผันผวน จำเป็นต้องเพิ่มกลไก และมาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อสร้างโอกาสในวิกฤติโดยเน้นการบูรณาการทำงานจากหลายภาคส่วนร่วมกัน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคเกษตรกร สถาบันเกษตรกรภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์ปฏิรูปภาคเกษตรของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต ยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร 4.0 ยุทธศาสตร์ทำงานเชิงรุกบูรณาการทุกภาคส่วน ยุทธศาสตร์เกษตรปลอดภัยเกษตรมั่นคงเกษตรยั่งยืน (3 S :Safety Security Sustanability) และยุทธศาสตร์เกษตรกรรมยั่งยืนบนฐานศาสตร์พระราชาเป็นกรอบการกำหนดมาตรการและการบริหารเพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของยางไทย


ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบในหลักการ ให้มีการจัดตั้งแพลตฟอร์มเครือข่ายยางไทยเป็นองค์กรความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับยางพารา ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ด้วยแนวทางความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกัน (Partnership principal) เป็นการผนึกพลังให้แข็งแกร่งในฐานะประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกยางอันดับหนึ่งของโลกเป็นองค์กรในลักษณะเดียวกับแพลตฟอร์มเครือข่ายความร่วมมือ FKII ของญี่ปุ่นซึ่งมีกว่า 4,200 องค์กรเป็นสมาชิก และมอบหมายให้การยางแห่งประเทศไทยประสานกับสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรไทยในญี่ปุ่น เพื่อจัดทำโครงสร้างและระบบของแพลตฟอร์มเครือข่ายยางไทย เสนอในการประชุมคราวหน้า และจากการเสนอรายงานและข้อเสนอแนะของทูตเกษตรทุกภูมิภาคทั่วโลกทำให้เห็นถึงช่องว่างตลาดใหม่ๆ และนโยบายใหม่ของประเทศคู่ค้า จึงให้เพิ่มมาตรการใหม่อีก 6 มาตรการเชิงรุก ได้แก่


1. มาตรการสื่อสารประชาสัมพันธ์เชิงรุกเช่นการผลิตสื่อดิจิทอลเผยแพร่ในตลาดต่างประเทศ
2. มาตรการตลาดเชิงรุก เน้นความต้องการผลิตภัณฑ์ยางในรายตัวสินค้าและในรายประเทศคู่ค้า (product based &country based) เช่น ความต้องการยางจักรยานและยางรถบัสเพิ่มขึ้นในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป และผลิตภัณฑ์ยางที่อียูแบนสินค้าจากรัสเซีย หรือผลิตภัณฑ์ยางที่รัสเซียระงับการนำเข้าจากอียู ทำให้เกิดช่องว่างที่ไทยสามารถส่งออกไปทดแทนได้
3. มาตรการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันเร่งดำเนินการก่อนประเทศคู่แข่ง โดยใช้แนวทางเกษตรกรรมยั่งยืน สวนยางยั่งยืนและระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) ตอบโจทย์เทรนท์ของตลาด เช่น ประเด็นสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) FSCและDeforestation เป็นต้น
4. มาตรการระยะสั้นรายไตรมาส เพื่อการบริหารจัดการตามปฏิทินฤดูการผลิตประจำปี โดยมอบกยท. ภาคเอกชน และภาคเกษตรกรหารือกันเพื่อกำหนดมาตรการร่วมกัน
5. มาตรการพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่ยางมูลค่าสูงเน้นการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ยางเพิ่มรายได้ชาวสวนยาง สถาบันยาง และผู้ประกอบการ โดยให้กยท.ประสานกับศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (ศูนย์ AIC) ซึ่งมีผลงานการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ยางจำนวนมาก เช่น วัสดุภัณฑ์ก่อสร้างบ้านและอาคาร ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์ด้านคมนาคมขนส่ง
6. มาตรการเชิงกลไกการตลาด เช่น การแทรกแซงตลาด ซึ่งกยท.ได้ดำเนินการโครงการรักษาเสถียรภาพราคายางโดยเข้าแทรกแซงตลาดเป็นครั้งคราวในช่วงเวลาที่ผ่านมา จึงควรกำหนดมาตรการเพิ่มเติมเชิงกลไกตลาด เช่น การบริหารซัพพลายและดีมานด์ กลไกตลาดซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบจริง และระบบการประมูลยางออนไลน์ เป็นระบบที่เปิดกว้างเพิ่มผู้ซื้อทั้งลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ เพื่อแก้ปัญหาการกำหนดราคาโดยผู้ซื้อน้อยรายหรือการฮั้วหรือการผูกขาด

นอกจากนี้ ยังให้จัดฟอรั่มอัพเดทสถานการณ์ตลาดยางโลกทุก 2 เดือน โดยกยท.และสำนักงานเกษตรต่างประเทศของกระทรวงเกษตรฯ ไทย เพื่อให้เกษตรกรและผู้ประกอบการได้ทราบข้อมูลรอบด้านที่ทันโลกทันเหตุการณ์ด้วยระบบออนไลน์คู่ขนานกับการประชุมของคณะกรรมการชุดนี้ และยังมอบหมายให้สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตร ณ กรุงบรัสเซลส์ ประสานกับกยท. สถาบันชาวสวนยางและภาคเอกชนไทยในการขับเคลื่อนรับมือการเคลื่อนไหวของอียู ในประเด็น Deforestationรวมทั้ง มอบหมายกยท.ให้รวบรวมข้อมูลของสภาการยางแห่งมาเลเซีย (MRC) และนโยบายการวิจัยยางของมาเลเซียส่งให้กับกรรมการทุกคนเพื่อศึกษาเปรียบเทียบและนำเสนอในการประชุมครั้งต่อไป


ที่ประชุมได้รับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจ ตลาดยางพารา ในประเทศคู่ค้าที่สำคัญโดยมุมมองทูตเกษตร ประจำสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศในแต่ละภูมิภาคทั่วโลก โดยทูตเกษตรจากสหภาพยุโรป (สำนักงานบรัสเซลส์) อิตาลี (สำนักงานกรุงโรม) สหรัฐอเมริกาและอเมริกาใต้ (สำนักงานกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.และลอสแองเจลิส) ออสเตรเลีย รัสเซีย จีน ญี่ปุ่น อาเซียน (สำนักงานกรุงจาการ์ต้า) ซึ่งจากรายงานสถานการณ์การผลิต การค้า และการแข่งขันของตลาดยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางทั่วโลก ระหว่างเดือน ม.ค. - มิ.ย. ปี 2565 จีนมีมูลค่าการนำเข้ายางธรรมชาติ และยางสังเคราะห์จากไทย มากเป็นอันดับหนึ่งซึ่งมีปริมาณการนำเข้ายางพาราจากไทย จำนวน 1,426,305 ตัน เพิ่มขึ้น 5.37 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา จากการวิเคราะห์สถานการณ์ เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นกว่าในช่วงครึ่งแรกของปี มีการกำหนดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งภาคการเงินและการคลัง มีนโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าช่วยหนุนการฟื้นตัวของการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจีนอยู่ในทิศทางที่ดี วิสาหกิจต่างเร่งฟื้นฟุการผลิต สต๊อกยางพาราธรรมชาติในแหล่งสำคัญอยู่ในระดับต่ำ ราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้การใช้ยางพาราธรรมชาติทดแทนยางสังเคราะห์เพิ่มขึ้น อิตาลีนำเข้าสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์จากไทยมากเป็นอันดับ 3 รองจาก เยอรมันและเนเธอแลนด์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 31,340 ล้านบาท ในขณะที่ทางสหภาพยุโรปกำลังเดินหน้ายุทธศาสตร์ EU Green Deal เน้นการส่งเสริมอุตสาหกรรมยางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น จึงเป็นความท้าทายที่ภาครัฐและภาคเอกชนไทยต้องทำงานร่วมกัน เพื่อเตรียมรับมือกับนโยบายและมาตรการ European Green Deal รวมทั้งร่างกฎหมาย Deforestation free product ของ EU ที่ห้ามจำหน่ายสินค้าที่มีความเสี่ยงต่อการทำลายป่า ทั้งสินค้าภายใน EU และสินค้านำเข้ามาจำหน่ายใน EU จะเริ่มบังคับใช้กับสินค้า 6 ประเภท (เนื้อวัว ถั่วเหลือง น้ำมันปาล์ม โกโก้ ไม้ กาแฟ) และมีแนวโน้มที่ยางพาราจะเข้าอยู่ในรายการสินค้าควบคุมในอนาคต


ทางด้านฝ่ายเศรษฐกิจยาง การยางแห่งประเทศไทย ได้รายงานคาดการณ์ปริมาณผลผลิตยางพารา ปี 2565 มีปริมาณ 4.799 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 0.88% และคาดการณ์ปริมาณการส่งออกยางธรรมชาติปี 2565 มีปริมาณ 4.275 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 3.41% โดยมีมูลค่าการส่งออกยางและผลิตภัณฑ์ยาง ระหว่างเดือน ม.ค. - มิ.ย. 2565 มีมูลค่า 167,213 ล้านบาท และมีปริมาณการส่งออกยางธรรมชาติไปยังต่างประเทศ ระหว่างเดือน ม.ค. - มิ.ย. 2565 มีมูลค่า 70,502 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ซึ่งมากเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยส่งออกไปยังประเทศจีน มากที่สุด คิดเป็น 49% รองลงมาได้แก่ มาเลเซีย 10% สหรัฐอเมริกา 7% ญี่ปุ่น 6% เกาหลีใต้ 4% และอื่น ๆ 25%


นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้รับทราบความก้าวหน้า
1) ผลการดำเนินงานโครงการชะลอขายยางของสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง เพื่อชะลอปริมาณผลผลิตยางพาราออกสู่ตลาด ลดความผันผวนของราคายาง สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง มีสภาพคล่องทางการเงินในระหว่างรอขายผลผลิต ซึ่งมีสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางเข้าร่วมโครงการ ฯ 207 แห่ง จากการดำเนินงานโครงการฯ ดังกล่าว ในปีงบประมาณ 2565 เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรชาวสวนยางโดยสถาบันเกษตรกรที่ชะลอการขายยางในช่วงราคายางตกต่ำ และรอจำหน่ายยางเมื่อราคาสูงขึ้น มีส่วนต่างราคาเฉลี่ยในปี 2565 เป็น 3.37 บาท/กิโลกรัม มูลค่า 87.98 ล้านบาท มีเงินทุนหมุนเวียนสำหรับกิจกรรมการรวบรวมยางจากเกษตรกร ช่วยเสริมสภาพคล่องทางด้านการเงินให้เกษตรกรชาวสวนยางที่เป็นสมาชิกของสถาบันเกษตรกร ช่วยลดมลภาวะจากกลิ่นของยางก้อนถ้วยเปียก ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีให้กับอาชีพการทำสวนยาง ตลอดจนส่งเสริมให้กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพัฒนาสถานะเป็นนิติบุคคล

2) ความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการรักษาเสถียรภาพราคายาง และผลการดำเนินงานโครงการรักษาเสถียรภาพราคายาง จากการดำเนินการทางตลาดของ กยท. ได้ดำเนินการค้ำราคา โดยการบริหารการผลิตให้ตรงกับความต้องการตลาด เข้าแทรกแซงสร้างราคาในตลาดประมูลยางแผ่นดิบและยางแผ่นรมควัน เข้าประมูลในตลาดล่วงหน้ายางแผ่นรมควัน (เข้าค้ำราคาล่วงหน้า) น้ำยางสดเจรจาต่อรอง ราคาประกาศ กยท. ค้ำตลาด น้ำยางสดเข้าซื้อเพื่อค้ำราคาตลาด เพื่อสร้างจิตวิทยาขาบวกต่อตลาด ข้อมูล กยท.เข้าซื้อน้ำยางสด ณ วันที่ 22 มิ.ย.-14 ก.ค. 2565 รวม 5,239,980 กิโลกรัม เนื้อยางแห้ง 1,720,921.68 กิโลกรัม เป็นเงิน 91,037,470 บาท เฉลี่ยซื้อกิโลกรัมละ 52.90 บาท สร้างเสถียรภาพราคาน้ำยางจากที่ทุกบริษัทปลายน้ำตั้งราคาจะซื้อน้ำยางสด กิโลกรัมละ 45 บาท (ในเดือน มิ.ย.65) ตรึงราคาได้และกลับมาเพิ่มจากที่ราคาน้ำยางลง 49 บาท มาเป็น 51-52 บาท ในช่วงปลายเดือน มิ.ย.-ก.ค.65 รวม 24 วัน ถ้าเทียบปริมาณน้ำยางสดทั้งประเทศ วันละประมาณ 30,000,000 กิโลกรัม (น้ำยางสด) 10,000,000 กิโลกรัม (เนื้อยางแห้ง) จะสร้างราคาเพิ่ม 3-5 บาท/กิโลกรัม (จำนวน 24 วัน ) เป็นเงิน 720 ล้านบาท

สำหรับการประชุมคณะกรรมการติดตามและเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาราคายางและรักษาเสถียรภาพราคายาง ครั้งที่ 4/2565 เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2565 มีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นายกุลเดช พัวพัฒนกุล ประธานบอร์ดกยท. นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่ากยท. นายธีระชาติ ปางวิรุฬห์รักษ์ เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการตลาด


นายประพันธ์ บุณยเกียรติ อดีตประธานบอร์ดกยท. ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการค้าและการลงทุน นายเมฆินทร์ เอี่ยมสอาด คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายณฐกร สุวรรณธาดา คณะทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอาซีซัน แกสมาน ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนานวัตกรรมยางพารา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นายไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยจีน นายสวัสดิ์ ลาดปาละ ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางภาคเหนือ นายกรกฎ กิตติพล จากสมาคมยางพารา ผู้แทนสมาคมน้ำยางข้นไทย นายสุนทร รักษ์รงค์ กก.บอร์ดกยท. ทูตเกษตรประจำสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม.


13 ส.ค. 2565 เวลา 09:48 | อ่าน 417
กำลังโหลด ...


รีวิวบ้านใหม่ ไอเดียสร้างบ้าน
 
แชร์
L
ซ่อน
แสดง
มาใหม่
ครม.เคาะเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรเป็น 1,000 บาท เริ่ม 1 ม.ค.2568
27 17 ธ.ค. 2567
สอบภาค ก. ปี 2568 กำลังจะมาแล้วว เตรียมตัวกันให้พร้อม
110 17 ธ.ค. 2567
ธ.ก.ส. ออกมาตรการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวใต้ เลื่อนเวลาชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 1 ปี และไม่คิดดอกเบี้ยปรับเกษตรกรแจ้งความประสงค์ได้ที่ ธ.ก.ส ในพื้นที่ ถึง 31 มกราคม 2568
685 5 ธ.ค. 2567
แจ้งข่าวดีชาวไร่อ้อย เริ่ม 6 ธ.ค. นี้ ภาคตะวันออกและภาคอีสานเปิดหีบอ้อยน้ำตาลทรายที่แรก ก่อนทยอยเปิดภาคเหนือภาคกลาง คาดจำนวนอ้อยเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13.40%
663 5 ธ.ค. 2567
ทุนสำหรับบุคคลทั่วไประดับปริญญา ประจำปี 2568 (ทุน ก.พ.)
134 2 ธ.ค. 2567
ดวงกับดาวประจำวันที่ 1-7 ธันวาคม
74 1 ธ.ค. 2567
การปรับอัตราค่าตอบแทนแรกบรรจุและการปรับค่าตอบแทนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบของพนักงานราชการ (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566)
184 1 ธ.ค. 2567
รัฐบาลเดินหน้าสร้างโอกาสทำงานวัยเกษียณ จับมือ 16 ธุรกิจเอกชน เปิดตำแหน่งงานกว่า 4 พันอัตราทั่วประเทศ สมัครได้ที่เว็บไซต์
664 28 พ.ย. 2567
รองโฆษกรัฐบาล เผยค่าไฟ 4.15 บาท ต่ำกว่าข้อเสนอของ กกพ. ถึง 1.34 บาท ย้ำ “พีระพันธุ์” ต่อรองเต็มที่ เพื่อเป็นของขวัญจากรัฐบาลและ ก.พลังงาน
869 28 พ.ย. 2567
ระเบียบคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ว่าด้วยเงินค่าตอบแทนพิเศษของลูกจ้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2557
121 25 พ.ย. 2567
ดูเพิ่มเติม
 
หาเพื่อนไลน์
ไอเดียบ้านสวย
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
หางานราชการ
  English
TOEIC กับ การขึ้นเงินเดือน GED VS กศน ไทย (สอบเทียบไทย) แนะนำที่เรียน IELTS ยอดนิยม ของ เด็กอินเตอร์ TOEIC Online GED CU-TEP SAT
 
บทความกลุ่มเดียวกัน
กำลังโหลด ...