นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนประเทศอย่าง "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยกระทรวงแรงงาน ขานรับนโยบายรัฐบาล ในการเร่งสร้างโอกาส อาชีพ และการมีรายได้ที่มั่นคงให้แก่ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะคนพิการซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง รวมถึงยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ และด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม โดยตนได้มอบหมายให้กรมการจัดหางานดำเนินโครงการส่งเสริมการจ้างงานคนพิการเชิงสังคม ประเภทจ้างเหมาบริการ เพื่อเชิญชวนนายจ้าง สถานประกอบการที่ส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตามมาตรา 34 ให้ดำเนินการให้สิทธิแก่คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการตามมาตรา 35 โดยจ้างงานคนพิการเป็นพนักงานเพื่อปฏิบัติงานสนับสนุนในหน่วยบริการสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ชุมชนใกล้บ้าน เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงเรียน/ศูนย์เด็กเล็ก ศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการ ศูนย์บริการคนพิการของเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งช่วยให้คนพิการในพื้นที่ห่างไกล ได้รับโอกาสมีอาชีพ มีงานทำอย่างทั่วถึง สามารถพึ่งพาตนเองได้ทัดเทียมคนทั่วไป
“โครงการจ้างงานคนพิการเชิงสังคม เป็นโครงการที่ผมให้ความสำคัญมาก เพราะเกิดประโยชน์กับคนพิการอย่างแท้จริง ผู้พิการมีรายได้โดยตรงและได้ทำงานที่หน่วยงานใกล้บ้าน ซึ่งเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการและครอบครัวให้ดีขึ้น ต้องขอบคุณความร่วมมือของสถานประกอบการภาคเอกชน และชื่นชมการทำงานของกรมการจัดหางานที่ลงพื้นที่เชิงรุก เชิญชวนนายจ้าง/สถานประกอบการเข้าร่วมโครงการฯ อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเพิ่มช่องทางเข้าร่วมโครงการฯให้ทั้งคนพิการที่ต้องการรับสิทธิและสถานประกอบการที่ต้องการให้สิทธิตาม มาตรา 35 สามารถแจ้งผ่านระบบ e-Services ของกรมการจัดหางาน ได้สะดวก รวดเร็ว จนมีนายจ้าง/สถานประกอบการ แจ้งให้สิทธิคนพิการฯ ตามโครงการแล้วถึง 2,264 ราย” นายสุชาติ กล่าว
ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กรมการจัดหางาน รับข้อสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เชิญชวนนายจ้าง สถานประกอบการ ที่ใช้สิทธิตามมาตรา 34 ในการส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เปลี่ยนมาให้สิทธิตามมาตรา35 ประเภท จ้างเหมาบริการ ซึ่งล่าสุดได้รับความร่วมมือจากสถานประกอบการภาคเอกชนแล้ว จำนวน 219 แห่ง อาทิ บจก. แฟลช เอ็กซเพรส บ.ธนาคารกสิกรไทย จำกัด มหาชน บจม. อิตาเลียนไทย ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด มหาชัน บริษัท อีซูซุ มอเตอร์ (ประเทศไทย) โดยให้สิทธิคนพิการฯ ตามโครงการฯ จำนวน 2,264 คน และมีหน่วยบริการสาธารณะที่สามารถรับคนพิการเพื่อปฏิบัติงาน จำนวน 1,842 แห่ง รองรับคนพิการ จำนวน 2,608 คน โดยยังเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของผู้พิการหรือผู้ดูแลคนพิการแจ้งความประสงค์ทำงานแล้ว 2,981 คน ทั้งนี้ กรมการจัดหางานเป็นหน่วยงานรับเรื่องการขอใช้สิทธิของคนพิการ และรับเรื่องยื่นให้สิทธิตามมาตรา 35 จากนายจ้าง/สถานประกอบการ ซึ่งเปิดรับแจ้งถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565
“สำหรับสถานประกอบการที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ และผู้พิการที่ต้องการใช้สิทธิตามมาตรา 35 สามารถติดต่อขอรับบริการได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 - 10 หรือลงทะเบียนใช้สิทธิผ่านระบบ e-Services กรมการจัดหางาน และสำหรับประชาชนที่ต้องการมีงานทำ สามารถใช้บริการผ่านระบบออนไลน์ บนแพลตฟอร์ม “ไทยมีงานทำ”ซึ่งให้บริการทั้ง Web Application และ Mobile Application หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร 1694” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว