วันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีนายปธานิน เจ็น อายุ 41 ปี ชาวอุบลราชธานี ก่อเหตุขืนใจหญิงสาวอายุ 18 ปี ว่า กรณีนายปธานิน ถือเป็นบุคคลอันตราย และเป็นภัยต่อสังคม เพราะขณะถูกจับกุม ก็ยังพบเหยื่ออีกคนถูกขังอยู่ในบ้านพัก ซึ่งเป็นการกระทำความผิดซ้ำแบบไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย โดยหากดูประวัตินายปธานิน จะพบว่า เคยถูกต้องโทษจำคุกมาแล้วถึง 2 ครั้ง คือ คดีลักทรัพย์ ปี 2559 ถูกคุมขังที่เรือนจำกลางอุบลราชธานี และคดียาเสพติด ปี 2560 ถูกคุมขังที่เรือนจำคลองไผ่ ซึ่งถูกกำหนดโทษ 4 ปี 6 เดือน ก่อนถูกปล่อยตัวเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2564
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อพ้นโทษมายังไม่ถึง 1 ปี นายปธานิน ก็มาก่อเหตุซ้ำ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 ด้วยการทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ภายในสวนสาธารณะทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ก่อนจะขืนใจ ขณะเดียวกัน ยังกระทำกับเหยื่ออีกรายก่อนหน้าเพียง 1 เดือนเท่านั้น ซึ่งกรณีกระทำผิดซ้ำแบบนี้ จะเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายใหม่ คือ พ.ร.บ.มาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง ในมาตรา 3 โดยจะถูกคณะกรรมการพิจารณา เพื่อเสนอศาล ควบคุมภายหลังพ้นโทษ ด้วยการใส่กำไลอีเอ็ม เป็นเวลาไม่เกิน 10 ปี พร้อมถูกเฝ้าระวังด้วยอาสาคุมประพฤติ หากพบพฤติกรรมเสี่ยง จะพิจารณาคุมขังฉุกเฉินทันที
“เจตนาที่ผมผลักดันกฎหมายป้องกันทำผิดซ้ำออกมา ก็เพื่อเอามาควบคุมคนเหล่านี้ ไม่ให้ไปก่อเหตุซ้ำอีก และสร้างความปลอดภัยให้กับสังคม โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง ดังนั้น นายปธานิน จะถูกเฝ้าระวังภายหลังพ้นโทษตามกฎหมายใหม่เต็มๆ ที่จะมีผลบังคับใช้ 23 ม.ค.66 ส่วนเหยื่อล่าสุดทั้ง 2 ราย ผมก็ได้สั่งการให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ลงพื้นที่เร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือเยียวยาเหยื่อแล้ว พร้อมแจ้งสิทธิ และให้คำแนะนำการดำเนินคดี ซึ่งเหยื่อจะได้รับเงินเยียวยา รายละไม่เกิน 110,000 บาท แบ่งเป็น ค่าตอบแทนความเสียหาย 50,000 บาท ค่ารักษาพยาบาล 40,000 บาท ค่าฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ 20,000 บาท โดยผมรู้สึกเสียใจทุกครั้ง ที่เกิดเหตุลักษณะนี้กับกลุ่มผู้หญิง จึงสั่งการให้กรมราชทัณฑ์ เร่งจัด Watchlist บุคคลอันตรายตามกฎหมายใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้คนเหล่านี้ มีโอกาสก่อเหตุได้อีก“ รมว.ยุติธรรม กล่าว