วันที่ 8 ธ.ค. 65 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่สำนักงานประกันสังคมได้เปิดให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 สามารถเปลี่ยนสถานพยาบาลที่รับบริการได้ปีละ 1 ครั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกเนื่องจากอาจมีกรณีย้ายที่ทำงาน หรือที่อยู่อาศัย สำหรับปี 2566 สำนักงานประกันสังคมจะเปิดให้ผู้ประกันตนทั้ง2 กลุ่ม ยื่นขอเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. 65-31 มี.ค. 66
ทั้งนี้ สามารถดำเนินการผ่าน 4 ช่องทาง ได้แก่ 1) ยื่นแบบการเลือกสถานพยาบาลในการรับบริการทางการแพทย์ สปส. 9-02 กับสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทุกแห่งทั่วประเทศ 2) ทำรายการผ่านเว็บไซต์ประกันสังคม
www.sso.go.th 3) ทำรายการผ่าน Application SSO Connect และ 4) ทำรายการผ่าน Line official sso ทั้งนี้ หากได้ยื่นเปลี่ยนแปลงสถานพยาบาลผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นแล้ว ไม่จำเป็นต้องยื่นเอกสารที่สำนักงานประกันสังคมอีก
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงสถานพยาบาลนั้นจะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข คือ ตั้งอยู่ในจังหวัดที่ผู้ประกันตนทำงานหรือพักอาศัย หรือเป็นจังหวัดรอยต่อของจังหวัดดังกล่าวและสถานพยาบาลที่ประสงค์จะย้ายเข้านั้นต้องมีจำนวนผู้ประกันตนไม่เกินตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด ซึ่งผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบรายชื่อสถานพยาบาลได้จากนายจ้าง หรือ เว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม
www.sso.go.th หรือ สอบถามที่สายด่วน 1506 ได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับการแจ้งผลการเปลี่ยนแปลงสถานพยาบาลประจำปีนั้น กรณีผู้ประกันตนมาตรา 33 สำนักงานประกันสังคมจะแจ้งผ่านนายจ้าง ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 39 จะได้รับการแจ้งเป็นหนังสือไปยังที่อยู่ที่ให้ไว้ หรือ แจ้งผลผ่าน SMS
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้เหลืออีกไม่นานจะสิ้นปี 2565 แล้ว สำนักงานประกันสังคมยังได้ย้ำเตือนผู้ประกันตนว่าก่อนสิ้นเดือน ธ.ค. 65 นี้ อย่าลืมใช้สิทธิทำฟันประจำปี ตามที่ผู้ประกันตนมาตรา33 และ มาตรา 39 มีสิทธิทำฟันฟรีในงบไม่เกิน 900 บาทต่อปี โดยไม่ต้องสำรองจ่ายในกรณีที่ไปคลินิกที่มีป้าย “ทำฟันประกันสังคม 900 บาท ไม่ต้องสำรองจ่าย” แต่หากไปคลินิกที่ไม่มีป้ายดังกล่าวก็สามารถสำรองจ่ายแล้วนำใบเสร็จมาเบิกกับสำนักงานประกันสังคมได้
ทั้งนี้ บริการทำฟันที่ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการได้ ได้แก่ ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน และผ่าฟันคุด โดยหากเข้ารับบริการที่คลินิกหรือสถานพยาบาลที่ค่ารักษาเกินงบ 900 บาท ผู้ประกันตนจะต้องจ่ายเงินส่วนเกินดังกล่าว ส่วนเงื่อนไขของการใช้สิทธิได้นั้น จะต้องเป็นผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบมาแล้วครบ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนวันรับบริการ และหากได้ลาออกจากงานแล้ว ก็ยังสามารถรับบริการทำฟันภายในเวลา 6 เดือนหลังการลาออกได้เช่นกัน
ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สิทธิประกันสังคมเพื่อรับบริการดูแลสุขภาพฟันเพิ่มเติมได้ที่
www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง