พังแน่!!
ทำแบบนี้บ่อยๆ แอร์พังแน่!! ถ้าไม่อยากให้แอร์พังอย่าลืมดูแลรักษาแอร์รถยนต์ของคุณให้ดี เพราะหากเกิดปัญหาอาจนำมาซึ่งความร้อน หงุดหงิด และอาจส่งผลเสียหายจนเกิดการสูญเสียค่าใช้จ่ายที่สูงมากก็เป็นได้ ดังนั้นอย่าละเลย และอย่าทำสิ่งนี้เด็ดขาด!!
สิ่งที่ “ไม่ควรทำ” ถ้าไม่อยากให้ “แอร์พัง”
• ไม่เปลี่ยนไส้กรองแอร์ ควรเปลี่ยนทุก 6 เดือนถึง 1/2 ปี หรือ 10,000-30,000 กิโลเมตร เนื่องจากไส้กรองแอร์เป็นที่ดักจับฝุ่นและเป็นที่เก็บสะสมกลิ่นภายในรถ ถ้าไม่เปลี่ยนจะทำให้แผงแอร์สกปรกอุดตันได้ง่าย
• เปิดช่องรับอากาศจากด้านนอกเข้ามาภายในรถ ฝุ่นควันจะเข้ามา ถูกดูดเข้าไปในระบบแอร์ ทำให้กรองแอร์และแผงแอร์สกปรกอุดตันและทำให้แอร์ทำงานหนัก
• ปิดหน้ากากแอร์ จะทำให้เกิดความชื้นในช่องแอร์
• ห้ามนำสารระเหย เช่น น้ำหอม การบูร ไว้ในรถ เพราะจะเป็นตัวจับฝุ่น และความชื้น จะส่งผลให้เแอร์มีกลิ่นเหม็นอับและแผงแอร์อุดตันเร็วขึ้น
• เปิดแอร์ก่อนสตาร์ต และ ไม่ปิดแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์ จะทำให้ไดชาร์จถูกแรงไฟฟ้ากระชากอย่างรุนแรง ส่งผลทำให้ไดชาร์จเสื่อม ชำรุดเร็วขึ้น
• เปิดแอร์เย็นไป , เปิดหน้าต่างแล้วเปิดแอร์ จะทำให้แอร์ทำงานหนักและพังง่าย
*หมายเหตุ : ในกรณีของรถรุ่นใหม่อาจจะไม่จำเป็นต้องปิดแอร์ก่อนกับเครื่องยนต์แล้ว เนื่องจากรถยนต์รุ่นใหม่ได้ใส่ระบบตัดการทำงานของระบบไฟฟ้าอื่นๆ เมื่อกำลังสตาร์ตเครื่อง และระบบแอร์จะทำงานหลังจากเครื่องยนต์ทำงานแล้ว 2-3 วินาที ถ้าจะดับเครื่องก็ไม่จำเป็นต้องปิดแอร์
วิธีการดูแลรักษาแอร์รถยนต์ให้ใช้ได้นาน..
• ห้ามเสียบน้ำหอมที่มีแอลกอฮอล์ไว้หน้าช่องแอร์ เนื่องจากจะทำให้ตู้แอร์พังเร็ว
• ถ้าจอดรถตากแดดไว้ ก่อนใช้รถให้เปิดพัดลมไล่ความร้อน จากนั้นค่อยเปิดสวิตช์ A/C
• อย่าเปิดกระจกขับรถบ่อยๆ เพราะฝุ่นจากข้างนอกจะเข้ามาในรถและเข้าไปในตู้แอร์จนเกิดการอุดตัน
• หากอยู่ๆ แอร์เกิดไม่เย็น ผิดปกติ ให้รีบปิดสวิตช์แอร์ (A/C) และใช้พัดลมช่วยไปก่อน แล้วรีบนำส่งให้ช่างเช็ก เพราะถ้าปล่อยไว้นานอาจถึงขั้นทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์พังได้
• แนะนำให้ล้างตู้แอร์ทุกๆ 2 ปี แต่ถ้าใช้งานบนเส้นทางที่มีฝุ่นเยอะ สามารถนำเข้ามาล้างก่อนระยะที่กำหนดได้
• หากจำเป็นต้องเปิดกระจกขับรถ ให้ปิดช่องแอร์บริเวณคอลโซล เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นเข้าไปในระบบแอร์
ข้อมูลจาก เคมอเตอร์