วันที่ 10 เมษายน 2566 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์มีวันหยุดยาว ประชาชนเดินทางไปต่างจังหวัด รวมถึงท่องเที่ยว พักผ่อนตามสถานที่ต่างๆ รัฐบาลมีความห่วงใยความปลอดภัยในทรัพย์สินของประชาชน เชิญชวนประชาชนฝากบ้านไว้กับตำรวจ เพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สิน ป้องกันมิจฉาชีพฉวยโอกาสช่วงที่ไม่มีคนอยู่บ้านเข้าไปลักขโมยทรัพย์สินภายในบ้าน
รัฐบาล โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมใจดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ผ่านโครงการ "ฝากบ้านไว้กับตำรวจ" ทางแอปพลิเคชัน "ฝากบ้าน 4.0" ตามมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม และอำนวยความสะดวกการเดินทางให้กับประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 โดยมีวิธีการฝากบ้านไว้กับตำรวจผ่านเเอปพลิเคชัน "ฝากบ้าน 4.0"
1.เปิดแอปพลิเคชัน "ฝากบ้าน 4.0" แล้วลงทะเบียนกรอกข้อมูล2.เลือกหน่วยงานที่ต้องการติดต่อ (เลือกสถานีตำรวจที่ขอรับบริการฝากบ้าน)3.เลือกเมนู "ฝากบ้าน" แล้ว กดเลือก "ฝากบ้านของฉัน"4.กรอกรายละเอียดคำร้อง5.ตรวจสอบคำร้อง ผ่านเมนู "ข้อมูลของฉัน’"
ขั้นตอนการฝากบ้านไว้กับตำรวจ
1.ประชาชนผู้เป็นเจ้าของบ้าน เตรียมบัตรประชาชน ประสานสถานีตำรวจ
2.กรอกแบบฟอร์มยืนยัน
3.ก่อนออกเดินทางให้สำรวจทรัพย์สินมีค่า และจัดเก็บในที่ปลอดภัย
4.ก่อนออกจากบ้านให้สำรวจความเรียบร้อยของประตู-หน้าต่าง
5.สำรวจกล้องวงจรปิด ให้พร้อมใช้งาน หากที่บ้านติดตั้งไว้
6.หากมีความสนิทสนมกับเพื่อนบ้านใกล้เคียง ควรฝากบ้านข้างเคียงช่วยดูแลเป็นหู เป็นตา
7.กรณีกลับบ้านล่าช้าเกินเวลาที่ฝากบ้านไว้ กรุณาแจ้งให้ สน./สภ.ท้องที่ รับทราบ
8.เมื่อเดินทางกลับมาแล้ว ให้รีบแจ้งตำรวจไปพบ เพื่อตรวจสอบทรัพย์สิน
นอกจากการดำเนินโครงการฝากบ้านผ่านแอปพลิเคชันแล้ว ประชาชนที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ สามารถแสดงความจำนงค์ด้วยการยื่นแบบฟอร์มเข้าร่วมโครงการฯ ที่สถานีตำรวจที่บ้านของท่านอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบได้เช่นเดียวกัน
" การดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การป้องกันปราบปราม อาชญากรรม รวมทั้งการรักษาความสงบเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายมีความตั้งใจปฏิบัติงาน และให้บริการในช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างเต็มที่ หากพบเห็นการกระทำความผิด หรือต้องการความช่วยเหลือ กรุณารีบแจ้งสถานีตำรวจใกล้บ้านท่าน หรือโทรสายด่วน 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สิ่งที่สำคัญต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน หรือชุมชุนในท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมเป็นหูเป็นตา ทำงานร่วมกับตำรวจ อันจะก่อให้เกิดความเข้มแข็งในชุมชนต่อไป" นางสาวรัชดา กล่าว