วันที่ 3 ธันวาคม 2566 นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำถึงนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้สิน ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ทั้งในและนอกระบบ ซึ่งได้ยกเป็นวาระแห่งชาติ
โดยกระทรวงการคลังได้ประสานความร่วมมือกับธนาคารออมสิน ออกมาตรการ ตามข้อสั่งการของนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดให้กู้ผ่าน ‘สินเชื่อธนาคารประชาชนเพื่อแก้ไขหนี้นอกระบบ’ กู้ตามจำนวนหนี้ และตามความสามารถในการชำระหนี้ ไม่เกินรายละ 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 1 ต่อเดือน ชำระคืนในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี สามารถใช้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันได้
ผู้สนใจสามารถติดต่อขอกู้ที่ธนาคารออมสินได้ทุกสาขา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ GSB Contact Center โทร. 1115
ในส่วนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ออกมาตรการผ่านโครงการ ‘หนี้นอกบอก ธ.ก.ส.’ ให้กู้สินเชื่อเพื่อชำระหนี้สินนอกระบบวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท และสินเชื่อกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน จำนอง ขายฝาก หรือใช้ที่ดินเป็นประกันหนี้ วงเงินสูงสุด 2.5 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี ระยะเวลาชำระหนี้ไม่เกิน 20 ปี ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนผ่านธนาคาร ธ.ก.ส. ทุกสาขา หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์
www.baac.or.th
สำหรับที่มีประชาชนยังเข้าใจคลาดเคลื่อนในการแก้ไขปัญหาหนี้นั้น นางรัดเกล้า ระบุว่ารัฐบาลไม่ได้เข้าไปใช้หนี้นอกระบบให้ หรือยกหนี้ แต่รัฐบาลจะเข้าไปช่วยไกล่เกลี่ย มีการบูรณาการหลายภาคส่วนเข้ามา ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ และกระทรวงการคลัง รับบทบาทเป็นตัวกลางสำคัญในการไกล่เกลี่ยพร้อมกันทั้งดูแลเจ้าหนี้ ลูกหนี้อย่างเป็นธรรม ตั้งแต่ต้นกระบวนการไปจนถึงปิดหนี้
จากนั้นรัฐบาลจะช่วยปรับโครงสร้างหนี้ โดยกระทรวงการคลัง เพื่อให้ประชาชนสามารถชดใช้หนี้ได้อย่างมีศักดิ์ศรี
“ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานร่วมกันอย่างมีบูรณาการให้ดีและมีมาตรการต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความยั่งยืน ไม่ให้ประชาชนกลับเข้าสู่วงจรหนี้นอกระบบอีก ทำให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ดังนั้นขอประชาชนอย่ากังวลกับการเป็นหนี้นอกระบบ และขอเชิญชวนให้ลงทะเบียนเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาต่อไป” นางรัดเกล้า กล่าว