วันที่ 26 มีนาคม 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีชี้แจงด้วยความเชื่อมั่นราคาข้าวเปลือกนาปรังปีนี้ ถือว่าสูงที่สุดในรอบสิบปีที่ผ่านมา
โดยในปีนี้ข้าวมีราคาสูงกว่าปีที่ผ่านมา ราคาขึ้นมาประมาณ 2,000-3,000 บาทต่อตัน เชื่อมั่นได้ว่าถ้าราคายืนอยู่ในระดับนี้ไปตลอดฤดูนาปีและนาปรังของปี 2567 ซึ่งจะมีปริมาณผลผลิตข้าวเปลือกออกมาประมาณ 35 ล้านตัน หากคำนวนเฉพาะปัจจัยราคาที่เพิ่มขึ้น จะสามารถทำรายได้เพิ่มให้ชาวนาทั้งประเทศได้ราวปีละ 70,000-105,000 ล้านบาท
และหากสามารถเพิ่มผลผลิตต่อไร่ได้ด้วยนโยบายการปรับค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินได้ทั่วประเทศ ประกอบกับการปรับสูตรปุ๋ยใหม่ที่ทันสมัยและเฉพาะเจาะจงกับชนิดของข้าว บวกด้วยการเพิ่มพื้นที่ชลประทานและการพัฒนาสายพันธุ์ข้าว รวมทั้งการเปลี่ยนพื้นที่ปลูกข้าวที่ให้ผลผลิตต่ำไปผลิตสินค้าเกษตรที่ใช้น้ำน้อยกว่าข้าวแต่มีตลาดรองรับได้ดีกว่าและสามารถทำรายได้ที่สูงกว่าข้าว ตามแนวนโยบาย “เพิ่มรายได้ภาคการเกษตรเป็น 3 เท่าใน 4 ปี” ก็จะถือว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ที่รัฐบาลสามารถบูรณาการแก้ไขปัญหาเรื่องข้าวได้อย่างครบวงจรจริงๆ
นายชัย กล่าวว่า รัฐบาลโดยการนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมุ่งมั่นทำตามคำสัญญา ความมุ่งหวังที่ให้ไว้กับเกษตรกร โดยได้ดำเนินการอย่างมีแผนการทำงาน ทำงานเป็น ทำงานจริง โดยเชื่อมั่นว่าเมื่อประกอบกับทุกปัจจัยที่เตรียมการ และดำเนินการไว้ จะทำให้ถึงเวลาที่ชาวนาและเกษตรกรไทยจะยิ้มได้อย่างมีความสุขครับ